แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ 

1. พระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 มีผลบังคับใช้เมื่อใด

ก. วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข. 90 วันหลังจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ค. 120 วันหลังจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ง. 180 วันหลังจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

2. ข้อใดคือวัตถุประสงค์หลักของพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้

ก. เพื่อส่งเสริมการศึกษาในระบบเท่านั้น
ข. เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประชาชน
ค. เพื่อจัดการศึกษาภาคบังคับ
ง. เพื่อสนับสนุนการศึกษาระดับอุดมศึกษา

3. ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ “การเรียนรู้” หมายถึงอะไร

ก. การศึกษาในสถานศึกษาเท่านั้น
ข. กระบวนการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นเฉพาะในห้องเรียน
ค. กระบวนการที่บุคคลได้พัฒนาความรู้ ทักษะ เจตคติ โดยผ่านประสบการณ์ทั้งทางตรงและทางอ้อม
ง. การเรียนรู้จากครูผู้สอนเท่านั้น

4. “คณะกรรมการส่งเสริมการเรียนรู้” ตามพระราชบัญญัตินี้มีนายกรัฐมนตรีเป็น

ก. ประธานกรรมการ
ข. รองประธานกรรมการ
ค. กรรมการ
ง. ที่ปรึกษา

5. ใครเป็นเลขานุการในคณะกรรมการส่งเสริมการเรียนรู้

ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ข. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ค. เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้
ง. ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ

6. คณะกรรมการส่งเสริมการเรียนรู้มีหน้าที่หลักในเรื่องใด

ก. จัดการศึกษาในระบบโรงเรียน
ข. กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การส่งเสริมการเรียนรู้
ค. ให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียน
ง. บริหารงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ

7. การประชุมของคณะกรรมการส่งเสริมการเรียนรู้ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากี่คนจึงจะเป็นองค์ประชุม

ก. กึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด
ข. สองในสามของจำนวนกรรมการทั้งหมด
ค. สามในสี่ของจำนวนกรรมการทั้งหมด
ง. ทุกคนต้องมาประชุม

8. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมการเรียนรู้มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละกี่ปี

ก. 2 ปี
ข. 3 ปี
ค. 4 ปี
ง. 5 ปี

9. หน่วยงานใดทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการส่งเสริมการเรียนรู้

ก. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้
ค. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ง. สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา

10. ข้อใดไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้

ก. รับผิดชอบงานธุรการของคณะกรรมการ
ข. ศึกษา วิเคราะห์ และเสนอแนะนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านการส่งเสริมการเรียนรู้
ค. เป็นหน่วยงานออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
ง. ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามแผนการส่งเสริมการเรียนรู้

11. แผนการส่งเสริมการเรียนรู้แห่งชาติมีระยะเวลากี่ปี

ก. 3 ปี
ข. 5 ปี
ค. 10 ปี
ง. 15 ปี

12. การจัดทำแผนการส่งเสริมการเรียนรู้แห่งชาติต้องคำนึงถึงเรื่องใดเป็นสำคัญ

ก. ความเท่าเทียมและความทั่วถึงในการเข้าถึงการเรียนรู้
ข. การบริหารจัดการงบประมาณเท่านั้น
ค. ความต้องการของภาคเอกชนเท่านั้น
ง. การส่งเสริมการศึกษาในระบบเท่านั้น

13. การส่งเสริมการเรียนรู้ตามพระราชบัญญัตินี้ครอบคลุมประชาชนในช่วงวัยใด

ก. เด็กและเยาวชนเท่านั้น
ข. วัยทำงานเท่านั้น
ค. ผู้สูงอายุเท่านั้น
ง. ทุกช่วงวัย

14. ข้อใดไม่ใช่หลักการส่งเสริมการเรียนรู้ตามพระราชบัญญัตินี้

ก. การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ข. การเรียนรู้ตามความสนใจและความถนัด
ค. การเรียนรู้เฉพาะในระบบการศึกษาเท่านั้น
ง. การเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะอาชีพ

15. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีบทบาทอย่างไรในการส่งเสริมการเรียนรู้ตามพระราชบัญญัตินี้

ก. ไม่มีบทบาทใดๆ
ข. มีหน้าที่จัดการศึกษาในระบบเท่านั้น
ค. มีหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนการเรียนรู้ในพื้นที่รับผิดชอบ
ง. มีหน้าที่ให้ทุนการศึกษาเท่านั้น

16. การจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการเรียนรู้มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร

ก. เพื่อเป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียนยากจนเท่านั้น
ข. เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานส่งเสริมการเรียนรู้ตามพระราชบัญญัตินี้
ค. เพื่อสร้างอาคารเรียนใหม่เท่านั้น
ง. เพื่อจ่ายเงินเดือนให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา

17. แหล่งที่มาของเงินกองทุนส่งเสริมการเรียนรู้ไม่รวมข้อใด

ก. เงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้
ข. เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้
ค. เงินค่าปรับจากผู้กระทำผิดกฎหมายจราจร
ง. ดอกผลหรือผลประโยชน์ที่เกิดจากเงินหรือทรัพย์สินของกองทุน

18. ใครเป็นผู้รับผิดชอบการบริหารกองทุนส่งเสริมการเรียนรู้

ก. คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. คณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการเรียนรู้
ค. สำนักงบประมาณ
ง. กระทรวงการคลัง

19. การสนับสนุนการเรียนรู้ดิจิทัลตามพระราชบัญญัตินี้มีเป้าหมายอย่างไร

ก. เพื่อให้ทุกคนมีคอมพิวเตอร์ใช้ส่วนตัว
ข. เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงการเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา
ค. เพื่อให้เด็กและเยาวชนเท่านั้นได้เรียนรู้ผ่านสื่อดิจิทัล
ง. เพื่อทดแทนการเรียนการสอนแบบเดิมทั้งหมด

20. รัฐต้องสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่การเรียนรู้ในลักษณะใด

ก. เฉพาะในรูปแบบห้องสมุดประชาชนเท่านั้น
ข. เฉพาะในรูปแบบศูนย์การเรียนรู้ชุมชนเท่านั้น
ค. เฉพาะในรูปแบบพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมเท่านั้น
ง. ทั้งห้องสมุดประชาชน ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน พิพิธภัณฑ์ และแหล่งเรียนรู้ในรูปแบบที่หลากหลาย

21. การส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับผู้สูงอายุตามพระราชบัญญัตินี้มีเป้าหมายอย่างไร

ก. เพื่อให้ผู้สูงอายุได้เรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและการมีส่วนร่วมในสังคม
ข. เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับการศึกษาเพื่อประกอบอาชีพใหม่เท่านั้น
ค. เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับความบันเทิงเท่านั้น
ง. เพื่อให้ผู้สูงอายุได้เรียนรู้การใช้เทคโนโลยีเท่านั้น

22. พระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้กำหนดให้มีการประเมินผลการดำเนินงานตามแผนการส่งเสริมการเรียนรู้แห่งชาติอย่างไร

ก. ไม่ต้องมีการประเมินผล
ข. ประเมินผลเมื่อสิ้นสุดแผนเท่านั้น
ค. ประเมินผลทุกๆ 5 ปี
ง. ประเมินผลตามระยะเวลาที่คณะกรรมการกำหนด

23. รัฐต้องจัดให้มีสิทธิประโยชน์ด้านภาษีแก่ใครบ้างตามพระราชบัญญัตินี้

ก. สถานประกอบการที่สนับสนุนให้พนักงานได้รับการพัฒนาความรู้และทักษะ
ข. ประชาชนทุกคนที่เข้ารับการอบรมในหลักสูตรต่างๆ
ค. นักเรียนนักศึกษาเท่านั้น
ง. ผู้ประกอบอาชีพครูเท่านั้น

24. ภาคเอกชนมีบทบาทอย่างไรในการส่งเสริมการเรียนรู้ตามพระราชบัญญัตินี้

ก. ไม่มีบทบาทใดๆ
ข. มีบทบาทเฉพาะการให้ทุนการศึกษาเท่านั้น
ค. มีบทบาทในการส่งเสริมการพัฒนาทักษะและการเรียนรู้ในสถานประกอบการและการสนับสนุนแหล่งเรียนรู้
ง. มีบทบาทเฉพาะการจัดตั้งโรงเรียนเอกชนเท่านั้น

25. การส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับคนพิการตามพระราชบัญญัตินี้มีหลักการอย่างไร

ก. เน้นการแยกคนพิการให้ได้รับการสอนเป็นพิเศษ
ข. เน้นการเข้าถึงการเรียนรู้อย่างเท่าเทียมและการพัฒนาสื่อที่เหมาะสม
ค. เน้นการฝึกอาชีพเฉพาะสำหรับคนพิการเท่านั้น
ง. เน้นการจัดการศึกษาในสถานศึกษาพิเศษเท่านั้น

26. พระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้กำหนดให้มีการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้อย่างไร

ก. เฉพาะในระดับอุดมศึกษาเท่านั้น
ข. เฉพาะโดยนักวิจัยมืออาชีพเท่านั้น
ค. สนับสนุนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้โดยหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน
ง. เฉพาะในศาสตร์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเท่านั้น

27. การประเมินทักษะและสมรรถนะตามพระราชบัญญัตินี้มีลักษณะอย่างไร

ก. ประเมินเฉพาะความรู้ทางวิชาการเท่านั้น
ข. ประเมินเฉพาะทักษะอาชีพเท่านั้น
ค. ประเมินทั้งทักษะ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้จากการเรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ
ง. ประเมินเฉพาะผลการเรียนในสถานศึกษาเท่านั้น

28. การส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาชุมชนตามพระราชบัญญัตินี้มีลักษณะอย่างไร

ก. เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนเท่านั้น
ข. เน้นการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นเท่านั้น
ค. เน้นการพัฒนาสิ่งแวดล้อมในชุมชนเท่านั้น
ง. สนับสนุนการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตในชุมชนในทุกมิติ

29. ผู้ที่มีหน้าที่รายงานผลการดำเนินงานตามพระราชบัญญัตินี้ต่อคณะรัฐมนตรีคือใคร

ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ข. คณะกรรมการส่งเสริมการเรียนรู้
ค. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ง. เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้

30. ข้อใดไม่ใช่บทบาทของสถาบันการศึกษาในการส่งเสริมการเรียนรู้ตามพระราชบัญญัตินี้

ก. พัฒนาและเผยแพร่องค์ความรู้สู่สังคม
ข. ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแก่ประชาชน
ค. สนับสนุนการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้
ง. ผูกขาดการเรียนรู้ไว้ในระบบการศึกษาเท่านั้น

เฉลยคำตอบ  พระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้

1. ค. 120 วันหลังจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
2. ข. เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประชาชน
3. ค. กระบวนการที่บุคคลได้พัฒนาความรู้ ทักษะ เจตคติ โดยผ่านประสบการณ์ทั้งทางตรงและทางอ้อม
4. ก. ประธานกรรมการ
5. ค. เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้
6. ข. กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การส่งเสริมการเรียนรู้
7. ก. กึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด
8. ค. 4 ปี
9. ข. สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้
10. ค. เป็นหน่วยงานออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
11. ข. 5 ปี
12. ก. ความเท่าเทียมและความทั่วถึงในการเข้าถึงการเรียนรู้
13. ง. ทุกช่วงวัย
14. ค. การเรียนรู้เฉพาะในระบบการศึกษาเท่านั้น
15. ค. มีหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนการเรียนรู้ในพื้นที่รับผิดชอบ
16. ข. เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานส่งเสริมการเรียนรู้ตามพระราชบัญญัตินี้
17. ค. เงินค่าปรับจากผู้กระทำผิดกฎหมายจราจร
18. ข. คณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการเรียนรู้
19. ข. เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงการเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา
20. ง. ทั้งห้องสมุดประชาชน ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน พิพิธภัณฑ์ และแหล่งเรียนรู้ในรูปแบบที่หลากหลาย
21. ก. เพื่อให้ผู้สูงอายุได้เรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและการมีส่วนร่วมในสังคม
22. ง. ประเมินผลตามระยะเวลาที่คณะกรรมการกำหนด
23. ก. สถานประกอบการที่สนับสนุนให้พนักงานได้รับการพัฒนาความรู้และทักษะ
24. ค. มีบทบาทในการส่งเสริมการพัฒนาทักษะและการเรียนรู้ในสถานประกอบการและการสนับสนุนแหล่งเรียนรู้
25. ข. เน้นการเข้าถึงการเรียนรู้อย่างเท่าเทียมและการพัฒนาสื่อที่เหมาะสม
26. ค. สนับสนุนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้โดยหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน
27. ค. ประเมินทั้งทักษะ สมรรถนะ และประสบการณ์ที่ได้จากการเรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ
28. ง. สนับสนุนการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตในชุมชนในทุกมิติ
29. ข. คณะกรรมการส่งเสริมการเรียนรู้
30. ง. ผูกขาดการเรียนรู้ไว้ในระบบการศึกษาเท่านั้น