แนวข้อสอบ จิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว ฟรี

แนวข้อสอบ จิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว 

ส่วนที่ 1: ทฤษฎีจิตวิทยาการศึกษา

1. ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจต์ (Piaget) ขั้นที่เด็กสามารถแก้ปัญหาโดยใช้เหตุผลเชิงนามธรรมได้ คือขั้นใด

ก. ขั้นประสาทสัมผัสและการเคลื่อนไหว (Sensorimotor Stage)
ข. ขั้นก่อนปฏิบัติการคิด (Preoperational Stage)
ค. ขั้นปฏิบัติการคิดแบบรูปธรรม (Concrete Operational Stage)
ง. ขั้นปฏิบัติการคิดแบบนามธรรม (Formal Operational Stage)

2. บุคคลใดที่เป็นผู้คิดค้นทฤษฎีการเรียนรู้แบบเชื่อมโยง (Connectionism)

ก. สกินเนอร์ (B.F. Skinner)
ข. วัตสัน (John B. Watson)
ค. ธอร์นไดค์ (E.L. Thorndike)
ง. พาฟลอฟ (Ivan Pavlov)

3. หลักการเสริมแรงทางบวก (Positive Reinforcement) ตามทฤษฎีการเรียนรู้การวางเงื่อนไขแบบการกระทำ คือข้อใด

ก. การให้สิ่งเร้าที่พึงพอใจเพื่อเพิ่มพฤติกรรมที่ต้องการ
ข. การหยุดให้สิ่งเร้าที่ไม่พึงพอใจเพื่อเพิ่มพฤติกรรมที่ต้องการ
ค. การให้สิ่งเร้าที่ไม่พึงพอใจเพื่อลดพฤติกรรมที่ไม่ต้องการ
ง. การถอนสิ่งเร้าที่พึงพอใจเพื่อลดพฤติกรรมที่ไม่ต้องการ

4. ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมของแบนดูรา (Bandura) มีแนวคิดสำคัญคือข้อใด

ก. การเรียนรู้เกิดจากการลองผิดลองถูก
ข. การเรียนรู้เกิดจากการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิก
ค. การเรียนรู้เกิดจากการเสริมแรงโดยตรงเท่านั้น
ง. การเรียนรู้เกิดจากการสังเกตและเลียนแบบตัวแบบ

5. “Zone of Proximal Development” เป็นแนวคิดของนักจิตวิทยาท่านใด

ก. เจอโรม บรูเนอร์ (Jerome Bruner)
ข. เลฟ ไวก็อตสกี้ (Lev Vygotsky)
ค. โฮเวิร์ด การ์ดเนอร์ (Howard Gardner)
ง. เจมส์ มาร์เชีย (James Marcia)

6. ตามทฤษฎีของมาสโลว์ (Maslow) ความต้องการขั้นใดที่อยู่สูงสุด

ก. ความต้องการความปลอดภัย
ข. ความต้องการการยอมรับทางสังคม
ค. ความต้องการความสำเร็จในชีวิต
ง. ความต้องการความเข้าใจและรู้จักตนเอง

7. ทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligence) ของการ์ดเนอร์ มีกี่ด้าน

ก. 5 ด้าน
ข. 7 ด้าน
ค. 8 ด้าน
ง. 9 ด้าน

8. ข้อใดไม่ใช่แนวคิดของทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มพุทธินิยม (Cognitivism)

ก. การเรียนรู้เกิดจากการเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม
ข. การเรียนรู้เกิดจากการประมวลผลข้อมูล
ค. การเรียนรู้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางปัญญา
ง. การเรียนรู้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมภายนอกที่สังเกตได้เท่านั้น

9. “การเรียนรู้อย่างมีความหมาย” (Meaningful Learning) เป็นแนวคิดของนักจิตวิทยาคนใด

ก. เดวิด ออซูเบล (David Ausubel)
ข. เจอโรม บรูเนอร์ (Jerome Bruner)
ค. โรเบิร์ต กาเย่ (Robert Gagné)
ง. อัลเบิร์ต แบนดูรา (Albert Bandura)

10. ทฤษฎีพัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์ก (Kohlberg) แบ่งเป็นกี่ระดับ

ก. 2 ระดับ
ข. 3 ระดับ
ค. 4 ระดับ
ง. 5 ระดับ


ส่วนที่ 2: การแนะแนวและการให้คำปรึกษา

11. การแนะแนวในโรงเรียนประกอบด้วยบริการหลักกี่ด้าน

ก. 3 ด้าน
ข. 5 ด้าน
ค. 7 ด้าน
ง. 9 ด้าน

12. ข้อใดไม่ใช่บริการแนะแนวในโรงเรียน

ก. บริการรวบรวมข้อมูลนักเรียนรายบุคคล
ข. บริการสารสนเทศ
ค. บริการจัดวางตัวบุคคล
ง. บริการบำบัดโรคทางจิตเวช

13. การใช้แบบทดสอบความถนัดและความสนใจเพื่อช่วยนักเรียนในการเลือกอาชีพ จัดเป็นบริการแนะแนวด้านใด

ก. บริการศึกษาและรวบรวมข้อมูลนักเรียนรายบุคคล
ข. บริการสารสนเทศ
ค. บริการให้คำปรึกษา
ง. บริการติดตามผล

14. ทักษะพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในการให้คำปรึกษาคือข้อใด

ก. การตีความ
ข. การให้คำแนะนำ
ค. การฟังอย่างตั้งใจ
ง. การเผชิญหน้า

15. การให้คำปรึกษาแบบยึดบุคคลเป็นศูนย์กลาง (Person-Centered Counseling) พัฒนาโดยใคร

ก. ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud)
ข. คาร์ล โรเจอร์ส (Carl Rogers)
ค. อัลเฟรด แอดเลอร์ (Alfred Adler)
ง. วิลเลียม กลาสเซอร์ (William Glasser)

16. ข้อใดไม่ใช่หลักการของการให้คำปรึกษาแบบยึดบุคคลเป็นศูนย์กลาง

ก. ความจริงใจ (Genuineness)
ข. การยอมรับโดยไม่มีเงื่อนไข (Unconditional Positive Regard)
ค. ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง (Empathic Understanding)
ง. การตีความหมายจิตใต้สำนึก (Unconscious Interpretation)

17. การให้คำปรึกษาแบบพฤติกรรมนิยม (Behavioral Counseling) มุ่งเน้นเรื่องใด

ก. การค้นหาความขัดแย้งในจิตใต้สำนึก
ข. การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่สังเกตได้
ค. การค้นหาความหมายในชีวิต
ง. การเปลี่ยนแปลงความคิดที่ไม่สมเหตุสมผล

18. บริการแนะแนวด้านใดที่มุ่งช่วยให้นักเรียนรู้จักตนเอง

ก. บริการสารสนเทศ
ข. บริการให้คำปรึกษา
ค. บริการจัดวางตัวบุคคล
ง. บริการรวบรวมข้อมูลนักเรียนรายบุคคล

19. เทคนิคการให้คำปรึกษาที่ใช้การพูดซ้ำความรู้สึกของผู้รับคำปรึกษาเพื่อแสดงความเข้าใจ เรียกว่าอะไร

ก. การสะท้อนความรู้สึก (Reflection of Feeling)
ข. การตีความ (Interpretation)
ค. การให้ข้อมูลย้อนกลับ (Feedback)
ง. การเผชิญหน้า (Confrontation)

20. ข้อใดไม่ใช่เป้าหมายของการแนะแนว

ก. เพื่อช่วยให้นักเรียนรู้จักและเข้าใจตนเอง
ข. เพื่อช่วยให้นักเรียนสามารถตัดสินใจได้ด้วยตนเอง
ค. เพื่อพัฒนานักเรียนให้สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อม
ง. เพื่อกำหนดอนาคตของนักเรียนตามความต้องการของผู้ปกครอง


ส่วนที่ 3: การวัดและประเมินผลทางจิตวิทยา

21. ข้อใดไม่ใช่ประเภทของแบบทดสอบทางจิตวิทยา

ก. แบบทดสอบเชาวน์ปัญญา (Intelligence Test)
ข. แบบทดสอบความถนัด (Aptitude Test)
ค. แบบทดสอบบุคลิกภาพ (Personality Test)
ง. แบบทดสอบวิเคราะห์สถานะทางการเงิน (Financial Status Test)

22. แบบทดสอบ WISC (Wechsler Intelligence Scale for Children) เป็นแบบทดสอบประเภทใด

ก. แบบทดสอบบุคลิกภาพ
ข. แบบทดสอบความถนัด
ค. แบบทดสอบเชาวน์ปัญญา
ง. แบบทดสอบความสนใจในอาชีพ

23. แบบทดสอบ Strong Interest Inventory เป็นแบบทดสอบที่วัดเกี่ยวกับอะไร

ก. ความถนัดทางวิชาชีพ
ข. บุคลิกภาพ
ค. เชาวน์ปัญญา
ง. ความสนใจในอาชีพ

24. คุณลักษณะสำคัญของแบบทดสอบมาตรฐานคือข้อใด

ก. ความเที่ยงตรง (Validity) และความเชื่อมั่น (Reliability)
ข. ความยากง่าย (Difficulty) และอำนาจจำแนก (Discrimination)
ค. ความเป็นปรนัย (Objectivity) และความครอบคลุม (Coverage)
ง. ถูกทุกข้อ

25. การทดสอบแบบอิงกลุ่ม (Norm-Referenced Test) คืออะไร

ก. การเปรียบเทียบผลการทดสอบกับเกณฑ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
ข. การเปรียบเทียบผลการทดสอบกับคะแนนของกลุ่ม
ค. การวัดความก้าวหน้าของผู้เรียนเทียบกับความสามารถเดิม
ง. การวัดความสามารถในการทำงานร่วมกันของกลุ่ม

26. เทคนิคการสังเกตพฤติกรรมแบบใดที่ผู้สังเกตเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรม

ก. การสังเกตแบบมีส่วนร่วม (Participant Observation)
ข. การสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม (Non-Participant Observation)
ค. การสังเกตแบบมีโครงสร้าง (Structured Observation)
ง. การสังเกตแบบไม่มีโครงสร้าง (Unstructured Observation)

27. แบบทดสอบ Myers-Briggs Type Indicator (MBTI) วัดเกี่ยวกับอะไร

ก. ความถนัดทางอาชีพ
ข. ระดับเชาวน์ปัญญา
ค. ลักษณะบุคลิกภาพ
ง. ความสนใจในการเรียน

28. “ความเชื่อมั่น” (Reliability) ของแบบทดสอบหมายถึงอะไร

ก. ความสามารถในการวัดในสิ่งที่ต้องการวัด
ข. ความคงที่ของผลการวัดเมื่อวัดซ้ำ
ค. ความสามารถในการนำไปใช้กับกลุ่มตัวอย่างที่หลากหลาย
ง. ความง่ายในการบริหารจัดการแบบทดสอบ

29. ค่า IQ ที่ถือว่าอยู่ในระดับปกติ (Average) โดยทั่วไปอยู่ในช่วงใด

ก. 70-85
ข. 85-115
ค. 115-130
ง. 130-145

30. เทคนิคการรวบรวมข้อมูลทางจิตวิทยาที่เป็นการสำรวจประวัติชีวิตของบุคคลอย่างละเอียด เรียกว่าอะไร

ก. การสัมภาษณ์ (Interview)
ข. การสังเกต (Observation)
ค. การศึกษารายกรณี (Case Study)
ง. การทดสอบ (Testing)


ส่วนที่ 4: ปัญหาและการปรับตัวทางการศึกษา

31. ปัญหาการเรียนที่เกิดจากความบกพร่องในการอ่าน เรียกว่าอะไร

ก. ดิสเลกเซีย (Dyslexia)
ข. ดิสกราเฟีย (Dysgraphia)
ค. ดิสคัลคูเลีย (Dyscalculia)
ง. สมาธิสั้น (ADHD)

32. ลักษณะของเด็กที่มีความสามารถพิเศษ (Gifted) มักไม่แสดงพฤติกรรมใด

ก. มีความคิดสร้างสรรค์สูง
ข. สามารถเรียนรู้ได้รวดเร็ว
ค. มีความเป็นผู้นำ
ง. มีความล้าช้าทางพัฒนาการภาษา

33. เด็กที่มีภาวะสมาธิสั้น (ADHD) มักแสดงอาการในข้อใด

ก. ซึมเศร้า แยกตัวจากสังคม
ข. วิตกกังวลมากเกินไป
ค. อยู่ไม่นิ่ง วอกแวกง่าย ขาดสมาธิ
ง. มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง

34. การช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหาการปรับตัวทางสังคมควรทำอย่างไร

ก. แยกนักเรียนออกจากกลุ่มเพื่อป้องกันการถูกล้อเลียน
ข. ฝึกทักษะทางสังคมและการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
ค. ให้เรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาความเป็นอิสระ
ง. เน้นการเรียนวิชาการเพื่อชดเชยปัญหาทางสังคม

35. ความวิตกกังวลในการสอบ (Test Anxiety) ส่งผลต่อนักเรียนอย่างไร

ก. ทำให้มีสมาธิและความจำดีขึ้น
ข. ทำให้เกิดแรงจูงใจในการเรียนมากขึ้น
ค. ทำให้ความสามารถในการคิดและการเรียนรู้ลดลง
ง. ไม่มีผลกระทบต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

36. การจัดการศึกษาสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษตามหลักการเรียนรวม (Inclusive Education) หมายถึงอะไร

ก. การแยกเด็กที่มีความต้องการพิเศษไปเรียนในโรงเรียนเฉพาะทาง
ข. การจัดให้เด็กที่มีความต้องการพิเศษเรียนร่วมในชั้นเรียนปกติ
ค. การจัดให้เด็กที่มีความต้องการพิเศษเรียนเฉพาะวิชาที่เหมาะสมกับความสามารถ
ง. การจัดการศึกษาทางไกลสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ

37. พฤติกรรมการรังแกกัน (Bullying) ในโรงเรียนส่งผลกระทบต่อนักเรียนในด้านใดมากที่สุด

ก. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ข. สุขภาพร่างกาย
ค. สุขภาพจิตและการปรับตัวทางสังคม
ง. พัฒนาการทางภาษา

38. เทคนิคการสอนแบบใดที่เหมาะสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ (Learning Disabilities)

ก. การสอนแบบบรรยาย
ข. การสอนโดยใช้สื่อหลากหลายและการแบ่งงานเป็นขั้นตอนย่อย
ค. การสอนแบบให้ทำแบบฝึกหัดจำนวนมาก
ง. การสอนแบบให้แข่งขันกับเพื่อน

39. แผนการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP: Individualized Education Program) ใช้สำหรับใคร

ก. นักเรียนที่มีผลการเรียนดีเด่น
ข. นักเรียนที่มีความต้องการพิเศษทางการศึกษา
ค. นักเรียนทุกคนในชั้นเรียน
ง. นักเรียนที่มีปัญหาพฤติกรรมเท่านั้น

40. ปัญหาการเรียนที่เกิดจากความบกพร่องในการคำนวณ เรียกว่าอะไร

ก. ดิสเลกเซีย (Dyslexia)
ข. ดิสกราเฟีย (Dysgraphia)
ค. ดิสคัลคูเลีย (Dyscalculia)
ง. ดิสโนเมีย (Dysnomia)


ส่วนที่ 5: แรงจูงใจและการเรียนรู้

41. ทฤษฎีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ (Achievement Motivation Theory) เป็นแนวคิดของใคร

ก. อับราฮัม มาสโลว์ (Abraham Maslow)
ข. เดวิด แมคเคลแลนด์ (David McClelland)
ค. เฟรเดอริค เฮอร์ซเบิร์ก (Frederick Herzberg)
ง. เอ็ดเวิร์ด เดซี่ (Edward Deci)

42. แรงจูงใจภายใน (Intrinsic Motivation) หมายถึงอะไร

ก. แรงจูงใจที่เกิดจากการได้รับรางวัลหรือคำชมเชย
ข. แรงจูงใจที่เกิดจากความต้องการภายในตัวบุคคล
ค. แรงจูงใจที่เกิดจากการถูกบังคับหรือลงโทษ
ง. แรงจูงใจที่เกิดจากความต้องการเอาชนะผู้อื่น

43. เทคนิคการสร้างแรงจูงใจในการเรียนที่มีประสิทธิภาพคือข้อใด

ก. การให้รางวัลทุกครั้งที่นักเรียนทำงานเสร็จ
ข. การเปรียบเทียบผลงานนักเรียนกับเพื่อนในชั้น
ค. การให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายการเรียนรู้
ง. การลงโทษเมื่อนักเรียนทำผิดพลาด

44. ปัจจัยใดไม่ใช่องค์ประกอบของแรงจูงใจในการเรียน

ก. ความสนใจในเนื้อหา
ข. ความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง
ค. คุณค่าและประโยชน์ของการเรียนรู้
ง. ฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัว

45. ทฤษฎีการกำหนดตนเอง (Self-Determination Theory) เกี่ยวข้องกับแรงจูงใจในลักษณะใด

ก. แรงจูงใจที่เกิดจากความต้องการพื้นฐานทางจิตวิทยา (ความเป็นอิสระ ความสามารถ และความสัมพันธ์)
ข. แรงจูงใจที่เกิดจากการคาดหวังผลลัพธ์
ค. แรงจูงใจที่เกิดจากความต้องการทางกายภาพ
ง. แรงจูงใจที่เกิดจากการแข่งขันกับผู้อื่น

46. ความเชื่อในความสามารถของตนเอง (Self-efficacy) เป็นแนวคิดของนักจิตวิทยาท่านใด

ก. อัลเบิร์ต แบนดูรา (Albert Bandura)
ข. บีเอฟ สกินเนอร์ (B.F. Skinner)
ค. คาร์ล โรเจอร์ส (Carl Rogers)
ง. เอริค อีริคสัน (Erik Erikson)

47. ทฤษฎีการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม (Participatory Learning) มีหลักการสำคัญคือข้อใด

ก. การเรียนรู้จากการถ่ายทอดความรู้จากครูสู่นักเรียน
ข. การเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติและมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้
ค. การเรียนรู้จากการท่องจำและทำแบบฝึกหัดซ้ำๆ
ง. การเรียนรู้จากการแข่งขันระหว่างผู้เรียน

48. ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยที่ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเอง (Self-directed Learning)

ก. การมีเป้าหมายการเรียนรู้ที่ชัดเจน
ข. การมีทักษะในการแสวงหาความรู้
ค. การพึ่งพาครูผู้สอนเป็นหลัก
ง. การมีแรงจูงใจภายใน

49. การสร้างบรรยากาศในชั้นเรียนที่ส่งเสริมการเรียนรู้ควรเป็นอย่างไร

ก. เน้นการแข่งขันเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนตั้งใจเรียน
ข. เน้นความเงียบและมีระเบียบวินัยเคร่งครัด
ค. เน้นให้นักเรียนทำงานเดี่ยวเพื่อพัฒนาความรับผิดชอบ
ง. เน้นความปลอดภัยทางจิตใจและการยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง

50. เทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวก (Positive Discipline) มีแนวคิดสำคัญคือข้อใด

ก. การใช้การลงโทษทางร่างกายเพื่อปรับพฤติกรรม
ข. การมุ่งเน้นให้เด็กเชื่อฟังผู้ใหญ่โดยไม่มีข้อโต้แย้ง
ค. การสอนทักษะชีวิตและพัฒนาวินัยในตนเองอย่างมีเหตุผล
ง. การควบคุมพฤติกรรมด้วยการให้รางวัลและการลงโทษ


Review ลูกค้า

เฉลยคำตอบ แนวข้อสอบ จิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว

ส่วนที่ 1: ทฤษฎีจิตวิทยาการศึกษา
1. ง 2. ค 3. ก 4. ง 5. ข 6. ค 7. ค 8. ง 9. ก 10. ข


ส่วนที่ 2: การแนะแนวและการให้คำปรึกษา
11. ข 12. ง 13. ข 14. ค 15. ข 16. ง 17. ข 18. ง 19. ก 20. ง


ส่วนที่ 3: การวัดและประเมินผลทางจิตวิทยา
21. ง 22. ค 23. ง 24. ง 25. ข 26. ก 27. ค 28. ข 29. ข 30. ค


ส่วนที่ 4: ปัญหาและการปรับตัวทางการศึกษา
31. ก 32. ง 33. ค 34. ข 35. ค 36. ข 37. ค 38. ข 39. ข 40. ค


ส่วนที่ 5: แรงจูงใจและการเรียนรู้
41. ข 42. ข 43. ค 44. ง 45. ก 46. ก 47. ข 48. ค 49. ง 50. ค


 

ครูผู้ช่วย อปท. กลุ่มวิชาต่างๆ

กลุ่มวิชาพลศึกษา กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ กลุ่มวิชาดนตรี กลุ่มวิชาการเกษตร กลุ่มวิชาการตลาด กลุ่มวิชาการบัญชี กลุ่มวิชาคหกรรม กลุ่มวิชาเคมี กลุ่มวิชาคอมพิวเตอร์ กลุ่มวิชาชีววิทยา กลุ่มวิชาจิตวิทยาและการแนะแนว กลุ่มวิชาดนตรีสากล กลุ่มวิชาทัศนศิลป์ กลุ่มวิชานาฎศิลป์ กลุ่มวิชาแนะแนว กลุ่มวิชาบรรณารักษ์ กลุ่มวิชาประถมศึกษา กลุ่มวิชาฟิสิกส์ กลุ่มวิชาศิลปะ กลุ่มวิชาภาษาไทย กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ กลุ่มวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา กลุ่มวิชาภาษาอังกฤษ กลุ่มวิชาวัดผลประเมินผล กลุ่มวิชาสังคมศึกษา กลุ่มวิชาอุตสาหกรรมศิลป์ กลุ่มวิชาเอกปฐมวัย สอบถามทางไลน์

แนวข้อสอบ จิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว ปรนัย 50 ข้อ

แจกฟรี

แนวข้อสอบภาค ก ครูผู้ช่วย อปท68

แนวข้อสอบ การพัฒนาผู้เรียน ปรนัย 50 ข้อ
แนวข้อสอบ การวิจัยทางการศึกษา (ปรนัย 50 ข้อ)
แนวข้อสอบ การบริหารจัดการชั้นเรียน (ปรนัย 50 ข้อ)
แนวข้อสอบ หลักสูตรและการพัฒนาหลักสูตร (ปรนัย 50 ข้อ)
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ (ปรนัย 30 ข้อ)
แนวข้อสอบ จิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว (ปรนัย 50 ข้อ)
แนวข้อสอบ วิชาการวัดและประเมินผลการศึกษา (ปรนัย 50 ข้อ)
แนวข้อสอบ นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา (ปรนัย 50 ข้อ)
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 (ปรนัย 50 ข้อ)
แนวข้อสอบ มาตรฐานวิชาชีพครูตามจรรยาบรรณวิชาชีพ (ปรนัย 50 ข้อ)
แนวข้อสอบ แบบแผนพฤติกรรมตามจรรยาบรรณวิชาชีพครู (ปรนัย 50 ข้อ)
แนวข้อสอบ คุณธรรม จริยธรรม และอุดมการณ์ความเป็นครู (ปรนัย 50 ข้อ)
แนวข้อสอบ ลักษณะงานที่ปฏิบัติตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่งครูผู้ช่วย (ปรนัย 50 ข้อ)
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ปรนัย 50 ข้อ พร้อมเฉลย(ปรนัย 50 ข้อ)
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ พ.ศ. 2551 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม)(ปรนัย 50 ข้อ)
แนวข้อสอบ หลักการสอนที่เน้นการคิดวิเคราะห์และการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ (ปรนัย 50 ข้อ)
แนวข้อสอบ พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ปรนัย 50 ข้อ)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *