แนวข้อสอบ การบริหารจัดการชั้นเรียน
ส่วนที่ 1: ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการบริหารจัดการชั้นเรียน
1. การบริหารจัดการชั้นเรียนหมายถึงอะไร
ก. การจัดตารางเรียนและตารางสอน
ข. การวางแผนการสอนและการเตรียมสื่อการเรียนรู้
ค. การดำเนินการต่างๆ เพื่อสร้างและรักษาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนการสอน
ง. การประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
2. ข้อใดไม่ใช่วัตถุประสงค์ของการบริหารจัดการชั้นเรียน
ก. เพื่อสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้
ข. เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางวิชาการของผู้เรียน
ค. เพื่อเน้นการลงโทษนักเรียนที่มีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์
ง. เพื่อพัฒนาทักษะทางสังคมและความรับผิดชอบของผู้เรียน
3. การบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงป้องกัน (Preventive Classroom Management) มีลักษณะอย่างไร
ก. การแก้ไขปัญหาพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ทันทีเมื่อเกิดขึ้น
ข. การวางแผนและจัดการสภาพแวดล้อมเพื่อลดโอกาสเกิดปัญหาพฤติกรรม
ค. การใช้การลงโทษเพื่อป้องกันพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
ง. การแยกนักเรียนที่มีแนวโน้มจะมีพฤติกรรมที่เป็นปัญหาออกจากชั้นเรียน
4. ข้อใดเป็นรูปแบบการจัดที่นั่งในชั้นเรียนที่เหมาะสมสำหรับกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ
(Cooperative Learning)
ก. การจัดที่นั่งแบบแถวหน้ากระดาน
ข. การจัดที่นั่งแบบวงกลม
ค. การจัดที่นั่งแบบกลุ่มย่อย
ง. การจัดที่นั่งแบบครึ่งวงกลม
5. แนวคิดที่ว่า “การจัดการพฤติกรรมในชั้นเรียนควรเน้นการสร้างวินัยเชิงบวกมากกว่าการลงโทษ” สอดคล้องกับทฤษฎีการจัดการชั้นเรียนของใคร
ก. B.F. Skinner
ข. Rudolf Dreikurs
ค. William Glasser
ง. Jacob Kounin
6. องค์ประกอบสำคัญที่สุดของการจัดการชั้นเรียนที่มีประสิทธิภาพคืออะไร
ก. การมีกฎระเบียบที่เข้มงวด
ข. การมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูและนักเรียน
ค. การมีสื่อการสอนที่ทันสมัย
ง. การจัดพื้นที่ในห้องเรียนอย่างเหมาะสม
7. วิธีการจัดการพฤติกรรมในชั้นเรียนแบบใดที่มุ่งเน้นให้นักเรียนรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง
ก. การใช้ระบบการให้รางวัลและการลงโทษ
ข. การใช้วิธีการควบคุมโดยครูเป็นผู้มีอำนาจเด็ดขาด
ค. การใช้สัญญาการเรียนรู้ (Learning Contract)
ง. การใช้การตำหนิในที่สาธารณะ
8. ปัจจัยใดที่มีผลต่อการบริหารจัดการชั้นเรียนมากที่สุด
ก. ขนาดของห้องเรียน
ข. จำนวนนักเรียน
ค. ภูมิหลังของนักเรียน
ง. บุคลิกภาพและความสามารถของครู
9. การสร้างกฎระเบียบในชั้นเรียนที่มีประสิทธิภาพควรมีลักษณะอย่างไร
ก. กำหนดโดยครูผู้สอนเพียงฝ่ายเดียว
ข. มีจำนวนมากเพื่อให้ครอบคลุมทุกสถานการณ์
ค. มีความชัดเจน เข้าใจง่าย และมีจำนวนไม่มากเกินไป
ง. เน้นการลงโทษมากกว่าการให้รางวัล
10. แนวคิด “Withitness” ในการจัดการชั้นเรียนของ Jacob Kounin หมายถึงอะไร
ก. ความสามารถของครูในการสอนเนื้อหาที่ยาก
ข. ความสามารถของครูในการรับรู้และตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆ ในห้องเรียนอย่างทันท่วงที
ค. ความสามารถของครูในการใช้สื่อการสอนที่ทันสมัย
ง. ความสามารถของครูในการประเมินผลการเรียนรู้
ส่วนที่ 2: กลยุทธ์การบริหารจัดการชั้นเรียน
11. การจัดการกับพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ในชั้นเรียน วิธีใดเหมาะสมที่สุด
ก. การตำหนิอย่างรุนแรงทันทีที่พบพฤติกรรมไม่พึงประสงค์
ข. การเพิกเฉยต่อพฤติกรรมเล็กน้อยที่ไม่รบกวนการเรียนการสอน
ค. การลงโทษทุกครั้งเมื่อพบพฤติกรรมไม่พึงประสงค์
ง. การให้นักเรียนออกจากห้องเรียนทันทีเมื่อแสดงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์
12. การใช้เทคนิค “Low-profile intervention” หมายถึงอะไร
ก. การแทรกแซงพฤติกรรมของนักเรียนโดยไม่รบกวนการเรียนการสอน
ข. การใช้มาตรการที่รุนแรงในการจัดการพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
ค. การให้นักเรียนแก้ไขพฤติกรรมของตนเองโดยไม่มีการแทรกแซงจากครู
ง. การเพิกเฉยต่อพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ทุกกรณี
13. ในการจัดการชั้นเรียน การใช้สัญญาณเพื่อดึงความสนใจของนักเรียน (Attention signal) มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร
ก. เพื่อลงโทษนักเรียนที่ไม่ตั้งใจเรียน
ข. เพื่อให้นักเรียนหยุดกิจกรรมที่กำลังทำและให้ความสนใจกับครู
ค. เพื่อให้นักเรียนเปลี่ยนกิจกรรมโดยไม่ต้องฟังคำอธิบาย
ง. เพื่อแจ้งให้นักเรียนทราบว่าใกล้หมดเวลาเรียน
14. การจัดการเวลาในชั้นเรียนอย่างมีประสิทธิภาพควรคำนึงถึงสิ่งใดมากที่สุด
ก. การจัดสรรเวลาให้กับกิจกรรมต่างๆ อย่างเหมาะสม
ข. การใช้เวลาส่วนใหญ่ในการบรรยายเนื้อหา
ค. การจัดกิจกรรมให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ง. การลดเวลาในการทำกิจกรรมกลุ่ม
15. การบริหารจัดการชั้นเรียนโดยใช้แนวคิด “Classroom meeting” ของ William Glasser มีลักษณะอย่างไร
ก. การประชุมระหว่างครูและผู้ปกครองเพื่อหารือเกี่ยวกับพฤติกรรมของนักเรียน
ข. การให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาและตัดสินใจเกี่ยวกับชั้นเรียน
ค. การให้นักเรียนที่มีปัญหาพฤติกรรมพบกับครูเป็นรายบุคคลเพื่อปรับพฤติกรรม
ง. การประชุมระหว่างครูเพื่อวางแผนการจัดการชั้นเรียน
16. เทคนิค “Planned ignoring” เหมาะสำหรับการจัดการกับพฤติกรรมใด
ก. พฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง
ข. พฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อตนเองหรือผู้อื่น
ค. พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์เล็กน้อยที่เกิดจากความต้องการความสนใจ
ง. พฤติกรรมการลอกการบ้าน
17. การจัดการชั้นเรียนแบบเชิงบวก (Positive Classroom Management) มีหลักการพื้นฐานคืออะไร
ก. การเน้นการลงโทษเพื่อลดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
ข. การเสริมแรงพฤติกรรมที่พึงประสงค์และการสอนทักษะที่เหมาะสม
ค. การแยกนักเรียนที่มีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ออกจากชั้นเรียน
ง. การให้ผู้ปกครองเป็นผู้รับผิดชอบในการแก้ไขพฤติกรรมของนักเรียน
18. ข้อใดเป็นการจัดการชั้นเรียนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันปัญหาวินัยในชั้นเรียน
ก. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ท้าทายและน่าสนใจ
ข. การให้การบ้านมากๆ เพื่อให้นักเรียนไม่มีเวลาว่าง
ค. การแยกนักเรียนที่มีแนวโน้มจะมีพฤติกรรมที่เป็นปัญหา
ง. การใช้การลงโทษทางร่างกายเมื่อนักเรียนแสดงพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
19. การจัดการชั้นเรียนในศตวรรษที่ 21 ควรมีลักษณะอย่างไร
ก. ครูเป็นผู้มีอำนาจเด็ดขาดในชั้นเรียน
ข. เน้นการเรียนรู้แบบท่องจำและทำแบบฝึกหัด
ค. ส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้และความรับผิดชอบ
ง. จัดสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและไม่มีการพูดคุยกัน
20. เทคนิค “I-Message” ในการสื่อสารกับนักเรียนที่มีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์มีลักษณะอย่างไร
ก. แสดงความรู้สึกของครูที่มีต่อพฤติกรรมนั้นๆ โดยไม่กล่าวโทษนักเรียน
ข. ใช้คำสั่งอย่างเด็ดขาดเพื่อให้นักเรียนเปลี่ยนพฤติกรรม
ค. วิจารณ์นักเรียนอย่างตรงไปตรงมาเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ง. ข่มขู่นักเรียนว่าจะเกิดผลเสียหากไม่เปลี่ยนพฤติกรรม
ส่วนที่ 3: การจัดการสภาพแวดล้อมในชั้นเรียน
21. การจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพในชั้นเรียนควรคำนึงถึงสิ่งใดเป็นอันดับแรก
ก. ความสวยงามของห้องเรียน
ข. ความปลอดภัยและความเหมาะสมต่อการเรียนรู้
ค. การประหยัดพื้นที่ให้มากที่สุด
ง. การจัดวางโต๊ะเรียนให้เป็นระเบียบ
22. การจัดพื้นที่ในห้องเรียนแบบศูนย์การเรียนรู้ (Learning Center) เหมาะสมกับการเรียนการสอนลักษณะใด
ก. การสอนแบบบรรยาย
ข. การเรียนรู้แบบรายบุคคลและกลุ่มย่อยตามความสนใจ
ค. การสอบและการทดสอบ
ง. การนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน
23. การจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้สำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษควรคำนึงถึงสิ่งใดมากที่สุด
ก. ความสวยงามของห้องเรียน
ข. การจัดกลุ่มนักเรียนตามความสามารถ
ค. การปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับความจำเป็นของแต่ละบุคคล
ง. การแยกนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษออกจากชั้นเรียนปกติ
24. การจัดการชั้นเรียนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม (Multicultural Classroom) ครูควรปฏิบัติอย่างไร
ก. สอนให้นักเรียนทุกคนปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมหลักของสังคม
ข. จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้และเข้าใจความแตกต่างทางวัฒนธรรม
ค. แยกกลุ่มนักเรียนตามภูมิหลังทางวัฒนธรรม
ง. เน้นสอนเฉพาะวัฒนธรรมที่เป็นของคนส่วนใหญ่
25. ในการจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพของห้องเรียน การจัดโต๊ะเรียนแบบใดเหมาะสมกับการสอนแบบบรรยาย
ก. แบบกลุ่ม
ข. แบบครึ่งวงกลม
ค. แบบแถวหน้ากระดาน
ง. แบบวงกลม
26. ข้อใดเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างบรรยากาศทางจิตวิทยาที่เอื้อต่อการเรียนรู้
ก. การตกแต่งห้องเรียนให้สวยงาม
ข. การมีสื่อการสอนที่ทันสมัย
ค. การสร้างความรู้สึกปลอดภัยและการยอมรับในชั้นเรียน
ง. การจัดโต๊ะเรียนให้เป็นระเบียบ
27. การจัดสภาพแวดล้อมในชั้นเรียนแบบ “Print-rich environment” มีลักษณะอย่างไร
ก. การจัดให้มีหนังสือและสื่อสิ่งพิมพ์ที่หลากหลายในห้องเรียน
ข. การติดภาพสวยงามรอบห้องเรียน
ค. การใช้เครื่องพิมพ์ในการผลิตสื่อการสอน
ง. การให้นักเรียนสร้างผลงานศิลปะในห้องเรียน
28. การจัดสภาพแวดล้อมในห้องเรียนเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้แบบ Active Learning ควรมีลักษณะอย่างไร
ก. จัดโต๊ะเรียนเป็นแถวหน้ากระดาน
ข. จัดพื้นที่ให้มีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามกิจกรรม
ค. จัดพื้นที่ให้มีความเงียบสงบ ไม่มีการพูดคุย
ง. จัดให้มีคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนทุกคน
29. การจัดวางโต๊ะครูในห้องเรียนที่เหมาะสมควรเป็นอย่างไร
ก. วางด้านหน้าห้องเพื่อให้ครูมองเห็นนักเรียนทุกคน
ข. วางด้านหลังห้องเพื่อให้ครูดูแลนักเรียนได้ทั่วถึง
ค. วางด้านข้างห้องเพื่อให้ไม่เป็นอุปสรรคต่อการมองเห็นกระดาน
ง. วางตรงกลางห้องเพื่อให้ครูเข้าถึงนักเรียนได้ทั่วถึง
30. การจัดมุมการเรียนรู้ในห้องเรียนระดับประถมศึกษาควรมีลักษณะอย่างไร
ก. จัดให้มีมุมที่หลากหลายตามความสนใจของนักเรียน
ข. จัดให้มีเฉพาะมุมหนังสือเท่านั้น
ค. จัดให้มีพื้นที่สำหรับการทำกิจกรรมกลุ่มใหญ่เท่านั้น
ง. จัดให้มีพื้นที่สำหรับเก็บอุปกรณ์การเรียนเท่านั้น
ส่วนที่ 4: การจัดการพฤติกรรมในชั้นเรียน
31. การจัดการกับพฤติกรรมที่เป็นปัญหาในชั้นเรียน ข้อใดเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุด
ก. การลงโทษอย่างรุนแรงเพื่อให้เป็นตัวอย่าง
ข. การวิเคราะห์สาเหตุของพฤติกรรมและหาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสม
ค. การเพิกเฉยต่อพฤติกรรมนั้นเสมอ
ง. การส่งนักเรียนไปพบผู้บริหารทันทีที่มีปัญหา
32. ทฤษฎีการเสริมแรงของ B.F. Skinner นำมาประยุกต์ใช้ในการจัดการพฤติกรรมในชั้นเรียนอย่างไร
ก. ใช้การลงโทษเพื่อลดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
ข. ใช้การให้รางวัลเพื่อเพิ่มพฤติกรรมที่พึงประสงค์
ค. ใช้การให้นักเรียนเรียนรู้จากการสังเกตตัวแบบ
ง. ใช้การให้นักเรียนเข้าใจเหตุผลของการกระทำ
33. เทคนิค “Time-out” ในการจัดการพฤติกรรมในชั้นเรียนมีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร
ก. เพื่อลงโทษนักเรียนที่มีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์
ข. เพื่อให้นักเรียนได้มีเวลาสงบสติอารมณ์และปรับพฤติกรรมของตนเอง
ค. เพื่อแยกนักเรียนที่มีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ออกจากชั้นเรียนอย่างถาวร
ง. เพื่อให้นักเรียนได้พักผ่อนจากการเรียน
34. การใช้ข้อตกลงในชั้นเรียน (Classroom Agreement) มีข้อดีอย่างไร
ก. ทำให้ครูมีอำนาจเด็ดขาดในการควบคุมชั้นเรียน
ข. ช่วยให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการกำหนดกฎระเบียบและรู้สึกเป็นเจ้าของ
ค. ช่วยให้ครูสามารถลงโทษนักเรียนได้อย่างเต็มที่
ง. ช่วยลดเวลาในการจัดการชั้นเรียน
35. การเสริมแรงทางบวกในชั้นเรียนควรมีลักษณะอย่างไร
ก. ให้รางวัลที่เป็นสิ่งของมีค่าทุกครั้งที่นักเรียนทำดี
ข. ใช้คำชมเชยอย่างสม่ำเสมอและมีความหมาย
ค. ให้คะแนนพิเศษทุกครั้งที่นักเรียนทำตามกฎ
ง. ให้สิทธิพิเศษแก่นักเรียนที่เรียนเก่ง
36. การจัดการกับความขัดแย้งในชั้นเรียน แนวทางใดเหมาะสมที่สุด
ก. ให้ครูเป็นผู้ตัดสินว่าใครถูกใครผิด
ข. ให้นักเรียนที่เกี่ยวข้องออกจากห้องเรียน
ค. ส่งเสริมให้นักเรียนแก้ไขปัญหาด้วยการเจรจาและหาทางออกร่วมกัน
ง. เพิกเฉยต่อความขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ ทุกกรณี
37. การลงโทษในชั้นเรียนที่เหมาะสมควรมีลักษณะอย่างไร
ก. รุนแรงเพื่อให้นักเรียนเกรงกลัว
ข. สัมพันธ์กับความผิดและมีเป้าหมายเพื่อการเรียนรู้
ค. เหมือนกันสำหรับความผิดทุกประเภท
ง. ให้นักเรียนอับอายต่อหน้าเพื่อน
38. แนวคิด “Logical Consequences” ของ Rudolf Dreikurs ในการจัดการพฤติกรรมในชั้นเรียนมีลักษณะอย่างไร
ก. การลงโทษที่รุนแรงเพื่อให้นักเรียนจดจำ
ข. ผลที่ตามมาจากการกระทำของนักเรียนมีความสัมพันธ์และสมเหตุสมผลกับพฤติกรรมนั้นๆ
ค. การใช้รางวัลเพื่อให้นักเรียนแสดงพฤติกรรมที่ดี
ง. การให้ผู้ปกครองเป็นผู้กำหนดบทลงโทษนักเรียน
39. ในการจัดการกับนักเรียนที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ข้อใดเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุด
ก. ตอบโต้ด้วยความเข้มงวดและรุนแรงทันที
ข. เพิกเฉยต่อพฤติกรรมนั้นทุกกรณี
ค. พูดคุยกับนักเรียนเป็นรายบุคคลเพื่อเข้าใจสาเหตุและหาแนวทางแก้ไข
ง. แยกนักเรียนออกจากชั้นเรียนทันที
40. การจัดการพฤติกรรมในชั้นเรียนด้วยวิธี “Token Economy” มีลักษณะอย่างไร
ก. การให้คะแนนพฤติกรรมที่ดีและหักคะแนนพฤติกรรมที่ไม่ดี
ข. การให้เหรียญตราหรือสัญลักษณ์เมื่อนักเรียนแสดงพฤติกรรมที่พึงประสงค์ และสามารถนำไปแลกรางวัลได้
ค. การให้รางวัลเป็นเงินเมื่อนักเรียนทำดี
ง. การลงโทษโดยให้นักเรียนทำงานพิเศษเมื่อทำผิดกฎ
ส่วนที่ 5: การสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
41. บรรยากาศการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพควรมีลักษณะอย่างไร
ก. เงียบสงบ ไม่มีการพูดคุยกัน
ข. มีการแข่งขันสูงเพื่อกระตุ้นการเรียนรู้
ค. ปลอดภัย ท้าทาย และส่งเสริมการมีส่วนร่วม
ง. มีระเบียบวินัยเข้มงวดและมีการควบคุมอย่างเคร่งครัด
42. ข้อใดเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ (Learning Community) ในชั้นเรียน
ก. การจัดหาสื่อการสอนที่ทันสมัย
ข. การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและความไว้วางใจระหว่างครูและนักเรียน
ค. การจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่สวยงาม
ง. การมีกฎระเบียบที่เข้มงวด
43. การสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ควรมีลักษณะอย่างไร
ก. เน้นการท่องจำและการทำซ้ำ
ข. เน้นการแข่งขันระหว่างนักเรียน
ค. เปิดโอกาสให้นักเรียนได้สำรวจ ทดลอง และแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ
ง. เน้นการทำงานเดี่ยวมากกว่าการทำงานกลุ่ม
44. การจัดการชั้นเรียนโดยใช้แนวคิด “Brain-based Learning” มีลักษณะอย่างไร
ก. จัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับการทำงานของสมองและการเรียนรู้ของมนุษย์
ข. เน้นการท่องจำเนื้อหาเพื่อพัฒนาความจำ
ค. จัดให้นักเรียนเรียนในสิ่งที่ยากและท้าทายเสมอ
ง. เน้นการฝึกสมาธิมากกว่าการเรียนรู้เนื้อหา
45. ในการสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative
Learning) ครูควรปฏิบัติอย่างไร
ก. ให้นักเรียนแข่งขันกันเพื่อให้ได้คะแนนสูงสุด
ข. จัดกิจกรรมที่นักเรียนต้องพึ่งพาและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ค. เน้นการทำงานเดี่ยวมากกว่าการทำงานกลุ่ม
ง. ให้นักเรียนเก่งช่วยสอนนักเรียนอ่อนเท่านั้น
46. การสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมีลักษณะอย่างไร
ก. ครูเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ทั้งหมด
ข. นักเรียนเป็นผู้กำหนดเนื้อหาและวิธีการเรียนรู้ทั้งหมด
ค. เน้นการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อความสนใจ ความถนัด และความแตกต่างของผู้เรียน
ง. ไม่มีการกำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ที่ชัดเจน
47. ปัจจัยใดที่มีผลต่อการสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ทางจิตวิทยาในชั้นเรียนมากที่สุด
ก. การตกแต่งห้องเรียน
ข. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน
ค. บุคลิกภาพและพฤติกรรมของครู
ง. อุปกรณ์การเรียนการสอน
48. การสร้างบรรยากาศการเรียนรู้เชิงบวกในชั้นเรียนมีความสำคัญอย่างไร
ก. ช่วยให้ครูควบคุมชั้นเรียนได้ง่ายขึ้น
ข. ช่วยให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นและมีพัฒนาการทางอารมณ์-สังคมที่ดี
ค. ช่วยลดเวลาในการจัดการชั้นเรียน
ง. ช่วยให้ครูใช้เวลาในการสอนน้อยลง
49. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของการสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
ก. การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูและนักเรียน
ข. การจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่เหมาะสม
ค. การมีกฎระเบียบและข้อตกลงที่ชัดเจน
ง. การจัดลำดับนักเรียนตามความสามารถทางการเรียน
50. กลยุทธ์ใดที่มีประสิทธิภาพในการสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการคิดขั้นสูง
ก. การใช้แบบฝึกหัดที่เน้นการท่องจำ
ข. การใช้คำถามปลายเปิดและการอภิปรายที่กระตุ้นความคิด
ค. การให้นักเรียนทำงานในลักษณะเดิมซ้ำๆ
ง. การให้ครูเป็นผู้พูดและอธิบายเนื้อหาทั้งหมด
Review ลูกค้า
เฉลยคำตอบ แนวข้อสอบ การบริหารจัดการชั้นเรียน
1. ค 2. ค 3. ข 4. ค 5. ค 6. ข 7. ค 8. ง 9. ค 10. ข
11. ข 12. ก 13. ข 14. ก 15. ข 16. ค 17. ข 18. ก 19. ค 20. ก
21. ข 22. ข 23. ค 24. ข 25. ค 26. ค 27. ก 28. ข 29. ค 30. ก
31. ข 32. ข 33. ข 34. ข 35. ข 36. ค 37. ข 38. ข 39. ค 40. ข
41. ค 42. ข 43. ค 44. ก 45. ข 46. ค 47. ค 48. ข 49. ง 50. ข
ครูผู้ช่วย อปท. กลุ่มวิชาต่างๆ
แจกฟรี
แนวข้อสอบภาค ก ครูผู้ช่วย อปท68
แนวข้อสอบ การบริหารจัดการชั้นเรียน 50 ข้อ

