แนวข้อสอบ ลักษณะงานที่ปฏิบัติตามมาตรฐานกำหนด ตำแหน่งครูผู้ช่วย (ปรนัย 50 ข้อ)

ด้านการปฏิบัติการสอน

1. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบหลักของการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้

ก. จุดประสงค์การเรียนรู้
ข. เนื้อหาสาระการเรียนรู้
ค. งบประมาณในการจัดกิจกรรม
ง. การวัดและประเมินผล

2. ครูผู้ช่วยควรคำนึงถึงสิ่งใดเป็นอันดับแรกในการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้

ก. ความสะดวกในการจัดเตรียมสื่อการสอน
ข. ความเหมาะสมกับวัยและความสามารถของผู้เรียน
ค. ความสอดคล้องกับเวลาที่กำหนดในหลักสูตร
ง. ความสามารถในการวัดและประเมินผลที่ชัดเจน

3. การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning มีลักษณะสำคัญอย่างไร

ก. ครูเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้แบบบรรยาย
ข. นักเรียนท่องจำเนื้อหาตามที่ครูสอน
ค. นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้และลงมือปฏิบัติ
ง. นักเรียนเรียนรู้ผ่านสื่อเทคโนโลยีเป็นหลัก

4. ข้อใดเป็นแนวทางการวัดและประเมินผลที่เหมาะสมสำหรับครูผู้ช่วย

ก. ใช้การวัดและประเมินผลแบบเดียวกันกับทุกระดับชั้น
ข. ประเมินเฉพาะความรู้ในเนื้อหาเท่านั้น
ค. ประเมินตามสภาพจริงและต่อเนื่อง
ง. ประเมินเฉพาะปลายภาคเรียนเพื่อความสะดวก

5. การวิจัยในชั้นเรียนมีจุดมุ่งหมายหลักเพื่ออะไร

ก. เพื่อสร้างผลงานทางวิชาการ
ข. เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน
ค. เพื่อพัฒนาตำแหน่งทางวิชาการของครู
ง. เพื่อรองรับการประเมินจากหน่วยงานต้นสังกัด

6. สื่อการเรียนรู้ที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร

ก. มีราคาแพงและทันสมัย
ข. สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้และเหมาะกับผู้เรียน
ค. มีความสวยงามและน่าสนใจเป็นหลัก
ง. เน้นการใช้เทคโนโลยีสูงเท่านั้น

7. การจัดชั้นเรียนในศตวรรษที่ 21 ควรเป็นอย่างไร

ก. เน้นให้นักเรียนนั่งเป็นระเบียบเรียบร้อยเพื่อความเป็นระเบียบ
ข. จัดที่นั่งแบบเดียวกันทุกคาบเรียนเพื่อความคุ้นเคย
ค. ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ตามกิจกรรมการเรียนรู้
ง. เน้นความสวยงามของห้องเรียนเป็นหลัก

8. ข้อใดไม่ใช่ขั้นตอนของกระบวนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL)

ก. กำหนดปัญหา
ข. วิเคราะห์ปัญหา
ค. นำเสนอผลการศึกษา
ง. ท่องจำข้อมูลที่ค้นพบ

9. ครูผู้ช่วยควรจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างไรเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์

ก. ให้นักเรียนท่องจำเนื้อหาจากหนังสือเรียน
ข. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดตามตัวอย่าง
ค. ให้นักเรียนระบุสาเหตุและผลกระทบของสถานการณ์ปัญหา
ง. ให้นักเรียนศึกษาเนื้อหาเพียงอย่างเดียว

10. การบูรณาการการเรียนรู้ หมายถึงอะไร

ก. การนำเนื้อหาวิชาต่างๆ มาสอนในเวลาเดียวกัน
ข. การเชื่อมโยงความรู้และทักษะระหว่างวิชาต่างๆ ในการเรียนรู้
ค. การสอนโดยใช้ครูหลายคนในวิชาเดียวกัน
ง. การให้นักเรียนเรียนหลายวิชาพร้อมกัน

ด้านการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ

11. การพัฒนาตนเองของครูผู้ช่วยควรมีลักษณะอย่างไร

ก. พัฒนาเฉพาะด้านที่ตนเองถนัด
ข. พัฒนาเฉพาะเมื่อมีการบังคับจากผู้บริหาร
ค. พัฒนาอย่างต่อเนื่องและรอบด้าน
ง. พัฒนาเฉพาะเพื่อการเลื่อนวิทยฐานะ

12. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC)

ก. เพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของครู
ข. แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การสอน
ค. สร้างโอกาสในการแข่งขันระหว่างครู
ง. พัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้

13. ครูผู้ช่วยควรมีวิธีการใดในการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในวิชาชีพ

ก. รอเข้ารับการอบรมที่หน่วยงานกำหนดเท่านั้น
ข. ศึกษาด้วยตนเองและเข้าร่วมการพัฒนาวิชาชีพอย่างหลากหลาย
ค. เน้นการศึกษาจากตำราที่มีในโรงเรียนเท่านั้น
ง. รอคำแนะนำจากครูพี่เลี้ยงเป็นหลัก

14. การพัฒนานวัตกรรมการสอนของครูผู้ช่วยควรเริ่มต้นจากข้อใด

ก. ศึกษาแนวคิดทฤษฎีจากต่างประเทศ
ข. วิเคราะห์สภาพปัญหาและความต้องการของผู้เรียน
ค. จัดซื้อสื่อเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ง. ทำตามแบบอย่างของโรงเรียนอื่น

15. การนิเทศการสอนมีความสำคัญต่อครูผู้ช่วยอย่างไร

ก. เป็นการตรวจสอบการทำงานของครู
ข. เป็นการประเมินผลการปฏิบัติงานเพื่อเลื่อนขั้นเงินเดือน
ค. เป็นกระบวนการให้คำแนะนำและช่วยเหลือเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้
ง. เป็นการรายงานผลการปฏิบัติงานต่อผู้บริหาร

16. การพัฒนาบุคลิกภาพของครูผู้ช่วยควรคำนึงถึงสิ่งใดมากที่สุด

ก. การแต่งกายตามแฟชั่นสมัยนิยม
ข. ความเหมาะสมกับความเป็นครูและเป็นแบบอย่างที่ดี
ค. การสร้างภาพลักษณ์ให้เป็นที่ยอมรับจากผู้บริหาร
ง. การใช้ของมียี่ห้อเพื่อแสดงฐานะทางสังคม

17. การเข้าร่วมชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ (PLC) ควรมีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร

ก. เพื่อสร้างผลงานทางวิชาการ
ข. เพื่อร่วมกันพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้
ค. เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลทั่วไปในโรงเรียน
ง. เพื่อกำหนดมาตรฐานการทำงานของครู

18. การพัฒนาตนเองด้านภาษาและเทคโนโลยีมีความสำคัญต่อครูผู้ช่วยอย่างไร

ก. เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการสอบวิทยฐานะ
ข. เพื่อประโยชน์ในการท่องเที่ยวต่างประเทศ
ค. เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21
ง. เพื่อเพิ่มโอกาสในการย้ายไปโรงเรียนที่ดีกว่า

19. ครูผู้ช่วยควรประเมินผลการปฏิบัติงานของตนเองอย่างไร

ก. ประเมินเฉพาะเมื่อมีการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ข. ประเมินเฉพาะความสำเร็จของงาน
ค. ประเมินอย่างสม่ำเสมอและนำผลมาพัฒนาตนเอง
ง. ประเมินเพื่อเปรียบเทียบกับเพื่อนครู

20. ข้อใดเป็นแนวทางการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับครูผู้ช่วย

ก. เน้นการสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริหารเท่านั้น
ข. เชื่อมโยงกับครูในโรงเรียนและนอกโรงเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน
ค. เน้นการสร้างเครือข่ายกับบุคคลที่มีชื่อเสียง
ง. เชื่อมโยงเฉพาะกับครูในกลุ่มสาระเดียวกัน

ด้านการสนับสนุนการจัดการเรียนรู้

21. ข้อใดเป็นหลักการสำคัญของการดูแลช่วยเหลือนักเรียน

ก. เน้นการสั่งสอนและลงโทษเพื่อให้นักเรียนเชื่อฟัง
ข. เน้นการป้องกันและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์เท่านั้น
ค. เน้นการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคลและให้การช่วยเหลืออย่างเหมาะสม
ง. เน้นการส่งเสริมนักเรียนที่เรียนดีเป็นพิเศษ

22. การจัดบรรยากาศในชั้นเรียนที่ส่งเสริมการเรียนรู้ควรเป็นอย่างไร

ก. เงียบสงบ ไม่มีการพูดคุย
ข. เน้นความสวยงามของการตกแต่งห้องเรียน
ค. ปลอดภัย เอื้อต่อการมีส่วนร่วมและกระตุ้นการเรียนรู้
ง. เน้นความเป็นระเบียบและมีวินัยเป็นหลัก

23. กิจกรรมเพื่อส่งเสริมพัฒนาการของผู้เรียนที่ครูผู้ช่วยควรดำเนินการ คือข้อใด

ก. กิจกรรมที่เน้นการแข่งขันเพื่อสร้างชื่อเสียงให้โรงเรียน
ข. กิจกรรมที่พัฒนาผู้เรียนรอบด้านตามความถนัดและความสนใจ
ค. กิจกรรมที่เน้นวิชาการเพื่อสอบเข้าศึกษาต่อ
ง. กิจกรรมที่ง่ายต่อการดำเนินการของครู

24. แนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาของนักเรียนที่เหมาะสมคือข้อใด

ก. ลงโทษให้หนักเพื่อไม่ให้เกิดพฤติกรรมซ้ำ
ข. ประจานให้เพื่อนร่วมชั้นทราบเพื่อเป็นตัวอย่าง
ค. เข้าใจสาเหตุและให้คำปรึกษาแนะนำอย่างเหมาะสม
ง. ละเลยพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้นักเรียนแก้ไขตนเอง

25. การบริหารจัดการชั้นเรียนที่มีประสิทธิภาพควรมีลักษณะอย่างไร

ก. ครูเป็นผู้กำหนดกฎระเบียบทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว
ข. นักเรียนมีส่วนร่วมในการกำหนดข้อตกลงและรับผิดชอบร่วมกัน
ค. ไม่ต้องมีกฎระเบียบเพื่อให้นักเรียนมีอิสระ
ง. มีการลงโทษที่รุนแรงเพื่อให้นักเรียนเชื่อฟัง

26. การสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับนักเรียนควรเป็นอย่างไร

ก. เน้นการให้รางวัลที่เป็นสิ่งของมีค่า
ข. เน้นการแข่งขันเพื่อให้นักเรียนพยายามมากขึ้น
ค. เน้นการสร้างแรงจูงใจภายในและเห็นคุณค่าของการเรียนรู้
ง. เน้นการให้คะแนนพิเศษเป็นหลัก

27. การใช้เทคโนโลยีในการสนับสนุนการเรียนรู้ควรเป็นอย่างไร

ก. ใช้เทคโนโลยีทดแทนการสอนของครู
ข. ใช้เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกของครูเป็นหลัก
ค. ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการเข้าถึงความรู้และพัฒนาทักษะของผู้เรียน
ง. ใช้เทคโนโลยีเพื่อความทันสมัยและสร้างภาพลักษณ์ที่ดี

28. การประสานความร่วมมือกับผู้ปกครองควรมีลักษณะอย่างไร

ก. ติดต่อเฉพาะเมื่อนักเรียนมีปัญหา
ข. ให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการวางแผนและพัฒนาผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง
ค. เชิญผู้ปกครองมาประชุมเพื่อรับฟังนโยบายของโรงเรียน
ง. ให้ผู้ปกครองสนับสนุนงบประมาณในการจัดกิจกรรม

29. การจัดทำข้อมูลสารสนเทศของนักเรียนมีประโยชน์อย่างไร

ก. เพื่อจัดลำดับความสามารถของนักเรียน
ข. เพื่อใช้ในการวางแผนและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับผู้เรียน
ค. เพื่อรายงานต่อผู้บริหารโรงเรียน
ง. เพื่อแจ้งให้ผู้ปกครองทราบผลการเรียน

30. การบูรณาการทรัพยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่นในการจัดการเรียนรู้มีความสำคัญอย่างไร

ก. ช่วยประหยัดงบประมาณในการจัดหาสื่อการเรียนรู้
ข. สร้างการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตและสภาพแวดล้อมของผู้เรียน
ค. สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างโรงเรียนกับชุมชน
ง. ช่วยลดภาระงานของครูในการจัดเตรียมสื่อการสอน

ด้านการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสถานศึกษา

31. บทบาทหน้าที่ของครูผู้ช่วยในการพัฒนาสถานศึกษาควรเป็นอย่างไร

ก. รอรับคำสั่งและนโยบายจากผู้บริหารเท่านั้น
ข. มีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็นและร่วมดำเนินงานพัฒนาโรงเรียน
ค. ปฏิบัติหน้าที่สอนเป็นหลัก ไม่เกี่ยวข้องกับงานอื่น
ง. ทำตามที่ครูอาวุโสแนะนำเท่านั้น

32. หลักการทำงานเป็นทีมที่ดีของครูผู้ช่วยควรเป็นอย่างไร

ก. ทำงานตามที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น
ข. แข่งขันกับเพื่อนร่วมงานเพื่อให้ผลงานเป็นที่ประจักษ์
ค. มีความรับผิดชอบ เคารพความคิดเห็นของผู้อื่น และร่วมมือแก้ปัญหา
ง. หลีกเลี่ยงความขัดแย้งโดยการยอมตามทุกอย่าง

33. การมีส่วนร่วมในการจัดทำแผนพัฒนาสถานศึกษาควรเป็นอย่างไร

ก. เข้าร่วมรับฟังและลงชื่อในเอกสาร
ข. รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์สภาพปัจจุบัน และเสนอแนวทางพัฒนา
ค. รอให้ฝ่ายบริหารจัดทำเสร็จแล้วจึงนำไปปฏิบัติ
ง. มอบหมายให้ครูอาวุโสเป็นผู้ดำเนินการ

34. การสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนมีความสำคัญต่อการพัฒนาสถานศึกษาอย่างไร

ก. ทำให้โรงเรียนได้รับการสนับสนุนทางการเงิน
ข. ช่วยให้โรงเรียนมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ
ค. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการบูรณาการทรัพยากรเพื่อพัฒนาผู้เรียน
ง. ช่วยลดภาระงานของครูและผู้บริหาร

35. การประกันคุณภาพภายในสถานศึกษามีความสำคัญอย่างไร

ก. เพื่อให้ผ่านการประเมินจากหน่วยงานภายนอก
ข. เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
ค. เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียน
ง. เพื่อรองรับการตรวจเยี่ยมจากผู้บังคับบัญชา

36. การดำเนินงานของครูผู้ช่วยตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงควรเป็นอย่างไร

ก. ประหยัดงบประมาณในการจัดการเรียนการสอนให้มากที่สุด
ข. บูรณาการหลักความพอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันในการทำงาน
ค. สอนให้นักเรียนรู้จักการออมเงินเท่านั้น
ง. นำวัสดุเหลือใช้มาทำสื่อการสอนเป็นหลัก

37. การจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพในโรงเรียนควรคำนึงถึงสิ่งใดเป็นสำคัญ

ก. ความสวยงามและทันสมัย
ข. ความปลอดภัยและเอื้อต่อการเรียนรู้
ค. ความประหยัดงบประมาณ
ง. ความสะดวกในการดูแลรักษา

38. บทบาทของครูผู้ช่วยในการร่วมพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ในสถานศึกษาควรเป็นอย่างไร

ก. รอให้ฝ่ายเทคโนโลยีดำเนินการก่อน
ข. เรียนรู้ พัฒนาตนเอง และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้อย่างเหมาะสม
ค. ใช้เทคโนโลยีเฉพาะที่ทันสมัยและราคาแพง
ง. มุ่งเน้นการสอนแบบดั้งเดิมไม่พึ่งพาเทคโนโลยี

39. การมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการสถานศึกษาของครูผู้ช่วยควรเป็นอย่างไร

ก. รอรับคำสั่งจากผู้บริหารเท่านั้น
ข. ร่วมแสดงความคิดเห็น ตัดสินใจ และรับผิดชอบตามบทบาทหน้าที่
ค. ปฏิบัติงานสอนเป็นหลัก ไม่เกี่ยวข้องกับการบริหาร
ง. ทำตามครูอาวุโสแนะนำเท่านั้น

40. การส่งเสริมค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กรที่ดีในสถานศึกษาควรเป็นอย่างไร

ก. ปฏิบัติตามวัฒนธรรมเดิมโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ข. ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างและมีส่วนร่วมในการส่งเสริมค่านิยมที่ดี
ค. ปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรตามความคิดของตนเอง
ง. รอให้ผู้บริหารเป็นผู้กำหนดแนวทางเท่านั้น

ด้านคุณลักษณะและจรรยาบรรณวิชาชีพ

41. คุณลักษณะที่สำคัญที่สุดของครูผู้ช่วยคือข้อใด

ก. บุคลิกภาพดี แต่งกายทันสมัย
ข. มีความรู้ลึกในเนื้อหาวิชา
ค. มีความรัก ความเมตตา และเอาใจใส่ศิษย์
ง. มีความสามารถในการสอนแบบบรรยาย

42. จรรยาบรรณวิชาชีพครูที่สำคัญที่สุดคือข้อใด

ก. จรรยาบรรณต่อตนเอง
ข. จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ
ค. จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ
ง. ทุกข้อมีความสำคัญเท่าเทียมกัน

43. การปฏิบัติตนตามหลักธรรมาภิบาลของครูผู้ช่วยควรเป็นอย่างไร

ก. ยึดหลักนิติธรรม คุณธรรม โปร่งใส มีส่วนร่วม รับผิดชอบ และคุ้มค่า
ข. ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยไม่โต้แย้ง
ค. ยึดถือผลประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง
ง. รักษาความลับทุกอย่างในโรงเรียนไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ

44. การพัฒนาคุณลักษณะด้านคุณธรรม จริยธรรมของครูผู้ช่วยควรดำเนินการอย่างไร

ก. เข้ารับการอบรมคุณธรรม จริยธรรมเมื่อมีโอกาส
ข. ศึกษาหลักธรรมทางศาสนาด้วยตนเอง
ค. ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
ง. ปฏิบัติตามจารีตประเพณีของสังคม

45. การสร้างความศรัทธาในวิชาชีพครูของครูผู้ช่วยควรทำอย่างไร

ก. แต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย
ข. พูดยกย่องวิชาชีพครูในที่สาธารณะ
ค. ปฏิบัติตนอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี มีความรับผิดชอบ และอุทิศตนเพื่อศิษย์
ง. เข้าร่วมกิจกรรมวันครูทุกปี

46. ครูผู้ช่วยควรปฏิบัติตนในฐานะพลเมืองที่ดีอย่างไร

ก. ปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้น
ข. เป็นแบบอย่างในการรักษาสิทธิและหน้าที่ของพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย
ค. ไม่แสดงความคิดเห็นทางการเมือง
ง. หลีกเลี่ยงการมีส่วนร่วมในชุมชน

47. การรักษาวินัยและจรรยาบรรณวิชาชีพของครูผู้ช่วยมีความสำคัญอย่างไร

ก. เพื่อป้องกันการถูกลงโทษทางวินัย
ข. เพื่อรักษามาตรฐานและเกียรติภูมิของวิชาชีพครู
ค. เพื่อเป็นที่ยอมรับของผู้บริหาร
ง. เพื่อความก้าวหน้าในอาชีพ

48. การแสดงออกถึงความรักและศรัทธาในวิชาชีพครูที่เหมาะสมควรเป็นอย่างไร

ก. พูดยกย่องวิชาชีพครูในทุกโอกาส
ข. แต่งกายให้สุภาพเรียบร้อยตามระเบียบ
ค. ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเต็มใจ เสียสละ และมุ่งมั่นพัฒนาวิชาชีพ
ง. ปกป้องเพื่อนครูที่กระทำผิดไม่ให้เสียชื่อเสียง

49. ครูผู้ช่วยควรมีทัศนคติที่ดีต่อวิชาชีพครูอย่างไร

ก. เห็นว่าเป็นอาชีพที่มีเกียรติและมั่นคง
ข. เห็นว่าเป็นอาชีพที่มีวันหยุดมาก
ค. เห็นว่าเป็นอาชีพที่มีความสำคัญต่อการพัฒนามนุษย์และสังคม
ง. เห็นว่าเป็นอาชีพที่ได้รับการยกย่องในสังคม

50. การปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณต่อสังคมของครูผู้ช่วยควรเป็นอย่างไร

ก. ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยและวางตัวเป็นกลางทางการเมือง
ข. ไม่ยุ่งเกี่ยวกับปัญหาสังคมรอบข้าง
ค. ชี้นำให้สังคมปฏิบัติตามความคิดของตน
ง. ปฏิบัติตามค่านิยมของสังคมโดยไม่วิเคราะห์