แนวข้อสอบ แบบแผนพฤติกรรมตามจรรยาบรรณวิชาชีพครู ปรนัย 50 ข้อ

จรรยาบรรณต่อตนเองและวิชาชีพ

1. ข้อใดกล่าวถึงจรรยาบรรณต่อตนเองได้ถูกต้องที่สุด

ก. การปฏิบัติงานโดยมุ่งเน้นผลประโยชน์ขององค์กรเป็นหลัก
ข. การพัฒนาตนเองให้มีความรู้ความสามารถและทักษะในวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง
ค. การประพฤติตนตามความต้องการของผู้ปกครองและนักเรียน
ง. การรักษาชื่อเสียงของโรงเรียนเป็นสำคัญ

2. ข้อใดไม่ใช่พฤติกรรมที่แสดงถึงการพัฒนาตนเองของครู

ก. ครูสมศักดิ์เข้าร่วมอบรมเกี่ยวกับเทคนิคการสอนใหม่ๆ ทุกครั้งที่มีโอกาส
ข. ครูวิไลศึกษาต่อในระดับปริญญาโททางด้านการศึกษา
ค. ครูประเสริฐรอให้ผู้บริหารสั่งการในการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาวิชาชีพเสมอ
ง. ครูมานะหมั่นอ่านหนังสือและวารสารทางการศึกษาเพื่อเพิ่มพูนความรู้

3. การที่ครูแต่งกายสุภาพเรียบร้อย ตรงต่อเวลา และมีความรับผิดชอบ สอดคล้องกับจรรยาบรรณข้อใดมากที่สุด

ก. จรรยาบรรณต่อตนเอง
ข. จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ
ค. จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ
ง. จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ

4. “ครูต้องรัก ศรัทธา ซื่อสัตย์สุจริต และรับผิดชอบต่อวิชาชีพ เป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรวิชาชีพ” ข้อความนี้สอดคล้องกับจรรยาบรรณข้อใด

ก. จรรยาบรรณต่อตนเอง
ข. จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ
ค. จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ
ง. จรรยาบรรณต่อสังคม

5. ข้อใดไม่ใช่แนวปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพครูด้านการพัฒนาตนเอง

ก. ศึกษาค้นคว้าริเริ่มสร้างสรรค์ความรู้ใหม่ให้ทันสมัยอยู่เสมอ
ข. แสวงหาและใช้แหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลาย
ค. ยึดมั่นในระเบียบวินัยทางราชการโดยไม่คำนึงถึงการพัฒนาตนเอง
ง. สร้างองค์ความรู้และแบ่งปันความรู้กับเพื่อนครู

6. ข้อใดไม่ใช่พฤติกรรมที่แสดงถึงการมีจรรยาบรรณต่อวิชาชีพ

ก. ปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีต่อศิษย์และบุคคลทั่วไป
ข. ปฏิบัติงานสอนตามหน้าที่เท่านั้น โดยไม่ต้องพัฒนาวิชาชีพ
ค. ส่งเสริมและพัฒนาครูรุ่นใหม่ให้มีความรู้และเจตคติที่ดีต่อวิชาชีพ
ง. ปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีของวิชาชีพ

7. “ครูต้องดำรงชีวิตอย่างเรียบง่าย ประหยัด อดออม ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ข้อความนี้สะท้อนจรรยาบรรณข้อใด

8. ข้อใดไม่เป็นการส่งเสริมให้จรรยาบรรณวิชาชีพครูเกิดผลในทางปฏิบัติ

ก. สร้างความรู้สึกรักและศรัทธาในวิชาชีพครู
ข. กำหนดบทลงโทษเมื่อครูประพฤติผิดจรรยาบรรณ
ค. สร้างแรงจูงใจทางบวกเพื่อส่งเสริมการประพฤติตามจรรยาบรรณ
ง. ไม่จำเป็นต้องมีการติดตามผลการปฏิบัติตามจรรยาบรรณ

9. ข้อใดเป็นพฤติกรรมที่แสดงถึงความรักและศรัทธาในวิชาชีพครู

ก. การประกอบวิชาชีพครูโดยมุ่งหวังรายได้เป็นหลัก
ข. การมีความภาคภูมิใจในการเป็นครูและยกย่องวิชาชีพครู
ค. การเข้าสู่วิชาชีพครูเพราะมีความมั่นคงและมีวันหยุดมาก
ง. การปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาเท่านั้น

10. ข้อใดไม่ใช่การรักษาชื่อเสียงและปกป้องศักดิ์ศรีแห่งวิชาชีพ

ก. ไม่ดูหมิ่นหรือกล่าวให้ร้ายผู้ร่วมวิชาชีพ
ข. ไม่นำความเท็จมากล่าวหาครูด้วยกัน
ค. ปกปิดความบกพร่องของเพื่อนครูที่ประพฤติผิดจรรยาบรรณวิชาชีพ
ง. ไม่ใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิด

จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ (นักเรียน)

11. ข้อใดที่เป็นการปฏิบัติผิดจรรยาบรรณต่อผู้เรียน

ก. การปฏิบัติต่อผู้เรียนด้วยความเสมอภาค
ข. การให้ความรักและความเมตตาต่อศิษย์ทุกคน
ค. การตั้งฉายาล้อเลียนนักเรียนบางคนที่มีลักษณะพิเศษ
ง. การอบรมสั่งสอนศิษย์ให้มีความรู้ควบคู่กับคุณธรรม

12. “ครูมีหน้าที่ให้คำปรึกษา ให้กำลังใจ และชี้แนะแนวทางให้ศิษย์ได้พัฒนาตนเองอย่างเต็มตามศักยภาพ” ข้อความนี้สอดคล้องกับหลักการใด

ก. หลักความเสมอภาค
ข. หลักความเมตตากรุณา
ค. หลักความยุติธรรม
ง. หลักการพัฒนาบุคคล

13. พฤติกรรมใดที่ถือว่าเป็นการปฏิบัติตามจรรยาบรรณครูต่อผู้เรียน

ก. การเปิดเผยความลับของนักเรียนในชั้นเรียน
ข. การสอนพิเศษเฉพาะนักเรียนที่มีฐานะดี
ค. การชมเชยนักเรียนที่เก่งและตำหนินักเรียนที่เรียนอ่อนต่อหน้าผู้อื่น
ง. การส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความถนัดและความสนใจ

14. ข้อใดไม่ใช่พฤติกรรมที่แสดงถึงความรัก เมตตา และเอาใจใส่ศิษย์

ก. ดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหาด้านการเรียนและปัญหาส่วนตัว
ข. จัดสรรเวลาให้นักเรียนได้ปรึกษาปัญหาตามความเหมาะสม
ค. มุ่งเน้นสอนเฉพาะนักเรียนที่เรียนเก่งเพื่อสร้างชื่อเสียงให้โรงเรียน
ง. ให้กำลังใจนักเรียนในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆ

15. “ครูใช้วาจาสุภาพ มีความอดทนอดกลั้น และให้เกียรตินักเรียนทุกคน” การกระทำนี้สอดคล้องกับหลักการใด
ก. หลักความเมตตา
ข. หลักความเสมอภาค
ค. หลักความยุติธรรม
ง. หลักการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

16. ข้อใดไม่ใช่พฤติกรรมที่แสดงถึงการปฏิบัติต่อศิษย์อย่างเท่าเทียมกัน

ก. ครูประเมินผลการเรียนตามความสามารถที่แท้จริงของนักเรียน
ข. ครูให้โอกาสนักเรียนทุกคนได้แสดงความคิดเห็นในชั้นเรียน
ค. ครูเรียกนักเรียนที่มีฐานะทางบ้านดีมาช่วยงานพิเศษบ่อยๆ
ง. ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายเพื่อให้เหมาะกับผู้เรียนทุกคน

17. การกระทำใดที่ถือว่าเป็นการล่วงละเมิดทางร่างกายหรือจิตใจของศิษย์

ก. การว่ากล่าวตักเตือนนักเรียนที่ทำผิดระเบียบด้วยเหตุผล
ข. การใช้วาจาเยาะเย้ยนักเรียนที่ตอบคำถามผิด
ค. การมอบหมายงานให้นักเรียนทำเพื่อฝึกทักษะเพิ่มเติม
ง. การประเมินผลการเรียนอย่างเที่ยงธรรม

18. ข้อใดที่ครูควรปฏิบัติเมื่อพบว่านักเรียนกำลังมีปัญหาส่วนตัว

ก. รับฟังปัญหาของนักเรียนและรักษาความลับของนักเรียน
ข. นำปัญหาของนักเรียนไปเล่าให้เพื่อนครูฟังเพื่อขอคำแนะนำ
ค. บอกให้นักเรียนแก้ปัญหาด้วยตนเองเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว
ง. แจ้งให้ผู้ปกครองทราบทันทีโดยไม่ต้องปรึกษานักเรียนก่อน

19. พฤติกรรมใดที่แสดงถึงการส่งเสริมให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้และพัฒนาตนเอง

ก. ครูสอนตามหนังสือเรียนอย่างเดียวโดยไม่เพิ่มเติมเนื้อหา
ข. ครูกำหนดให้นักเรียนทุกคนต้องเรียนเนื้อหาเดียวกันโดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล
ค. ครูแนะนำแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายและสนับสนุนให้นักเรียนค้นคว้าด้วยตนเอง
ง. ครูเน้นการท่องจำเนื้อหาเพื่อสอบมากกว่าการเข้าใจและนำไปใช้

20. ข้อใดเป็นการประพฤติผิดจรรยาบรรณต่อผู้เรียนในด้านการประเมินผล

ก. ประเมินผลตามสภาพจริงและมีหลักฐานชัดเจน
ข. ลำเอียงในการให้คะแนนเพราะความชอบส่วนตัว
ค. แจ้งผลการประเมินให้นักเรียนทราบเพื่อปรับปรุงตนเอง
ง. ใช้วิธีการประเมินที่หลากหลายและเหมาะสมกับเนื้อหา

จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ

21. ข้อใดไม่สอดคล้องกับจรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ

ก. ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันอย่างสร้างสรรค์
ข. วิจารณ์เพื่อนครูด้วยถ้อยคำรุนแรงเมื่อไม่เห็นด้วย
ค. ยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างของผู้ร่วมงาน
ง. รักษาชื่อเสียงของเพื่อนครูและองค์กรวิชาชีพ

22. พฤติกรรมใดที่แสดงถึงการช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันอย่างสร้างสรรค์

ก. ครูไม่ให้ความร่วมมือในการทำงานเป็นทีม
ข. ครูแบ่งปันความรู้และประสบการณ์กับเพื่อนครู
ค. ครูปฏิเสธการช่วยเหลือเพื่อนครูที่ขอคำแนะนำ
ง. ครูวิจารณ์การสอนของเพื่อนครูต่อหน้านักเรียน

23. “ครูควรเคารพการตัดสินใจของเพื่อนร่วมงานและไม่แทรกแซงการทำงานของผู้อื่น” ข้อความนี้สอดคล้องกับหลักการใด

ก. หลักการมีส่วนร่วม
ข. หลักการเคารพสิทธิ
ค. หลักความเสมอภาค
ง. หลักความรับผิดชอบ

24. ข้อใดไม่ใช่การปฏิบัติตามจรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ

ก. รับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของเพื่อนร่วมงาน
ข. นินทาเพื่อนครูลับหลังเมื่อไม่พอใจ
ค. ให้ความร่วมมือในการพัฒนาวิชาชีพร่วมกับเพื่อนครู
ง. แลกเปลี่ยนเรียนรู้และประสบการณ์กับเพื่อนครู

25. การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และประสบการณ์เพื่อพัฒนาวิชาชีพร่วมกันสะท้อนหลักการใด

ก. หลักการแข่งขัน
ข. หลักการมีส่วนร่วม
ค. หลักการเคารพสิทธิ
ง. หลักการรวมอำนาจ

26. “ครูยินดีร่วมทำงานกับผู้อื่น ยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง และเปิดใจกว้างรับฟังข้อเสนอแนะ” พฤติกรรมนี้แสดงถึงจรรยาบรรณด้านใด

ก. จรรยาบรรณต่อตนเอง
ข. จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ
ค. จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ
ง. จรรยาบรรณต่อสังคม

27. ข้อใดที่ไม่ใช่พฤติกรรมที่แสดงถึงการยึดมั่นในระบบคุณธรรมในการปฏิบัติงานร่วมกับผู้อื่น

ก. ตรงต่อเวลาและมีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย
ข. ปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อตกลงของการทำงานร่วมกัน
ค. ใช้เส้นสายเพื่อให้ได้รับมอบหมายงานที่ดีกว่าเพื่อนร่วมงาน
ง. ซื่อสัตย์และมีความโปร่งใสในการทำงานร่วมกับผู้อื่น

28. ครูที่มีจรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพจะปฏิบัติตนอย่างไร

ก. ไม่นำความลับหรือเรื่องส่วนตัวของเพื่อนครูไปเปิดเผย
ข. แข่งขันกับเพื่อนครูเพื่อแสวงหาความก้าวหน้าให้ตนเอง
ค. วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเพื่อนครูต่อหน้าผู้อื่น
ง. ไม่เข้าร่วมกิจกรรมทางวิชาการที่จัดโดยเพื่อนครู

29. ข้อใดไม่ใช่บทบาทของครูในการเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี

ก. แสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
ข. รับผิดชอบในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
ค. ปฏิเสธการทำงานร่วมกับผู้อื่นที่มีความคิดเห็นแตกต่าง
ง. เคารพและปฏิบัติตามมติของที่ประชุม

30. ข้อใดเป็นการแสดงความสามัคคีในหมู่คณะ

ก. ปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมายโดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม
ข. ไม่ร่วมกิจกรรมของโรงเรียนเพราะไม่ใช่หน้าที่โดยตรง
ค. แยกตัวทำงานคนเดียวเพราะไม่ต้องการความยุ่งยาก
ง. ปฏิเสธการช่วยเหลือเพื่อนครูที่มีปัญหาในการทำงาน

จรรยาบรรณต่อสังคม

31. ข้อใดเป็นการแสดงจรรยาบรรณต่อสังคมของครู

ก. สอนนักเรียนให้เคารพกฎหมายและระเบียบของสังคม
ข. ไม่สนใจปัญหาของชุมชนเพราะไม่ใช่หน้าที่ของครู
ค. เรียกรับผลประโยชน์จากผู้ปกครองเพื่อดูแลนักเรียนเป็นพิเศษ
ง. แยกตัวจากชุมชนเพราะต้องการความเป็นส่วนตัว

32. ข้อใดเป็นการปฏิบัติตามจรรยาบรรณต่อสังคมในด้านการให้ความร่วมมือในการพัฒนาชุมชน

ก. ปฏิเสธการเข้าร่วมกิจกรรมของชุมชนเพราะไม่มีเวลา
ข. เข้าร่วมการประชุมหมู่บ้านและเสนอแนวทางการพัฒนาชุมชน
ค. สอนหนังสือเท่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมอื่นๆ ของชุมชน
ง. ไม่สนใจปัญหาของชุมชนเพราะไม่ใช่หน้าที่โดยตรง

33. การเป็นผู้นำในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นสอดคล้องกับข้อใด

34. ข้อใดไม่ใช่บทบาทของครูในการเป็นผู้นำในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ก. จัดกิจกรรมปลูกป่าร่วมกับชุมชน
ข. สอนให้นักเรียนเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ค. ทิ้งขยะลงในถังขยะโดยไม่คัดแยก
ง. รณรงค์ลดการใช้พลาสติกในโรงเรียน

35. “ครูควรให้ความร่วมมือและช่วยเหลือในการพัฒนาชุมชนและสังคม” ข้อความนี้สอดคล้องกับหลักการใด

ก. หลักการมีส่วนร่วม
ข. หลักการกระจายอำนาจ
ค. หลักความรับผิดชอบ
ง. หลักความโปร่งใส

36. ข้อใดเป็นการแสดงถึงการให้บริการด้านวิชาการต่อชุมชนด้วยความเต็มใจ

ก. ครูสอนหนังสือเฉพาะในโรงเรียนเท่านั้น
ข. ครูจัดอบรมความรู้เกี่ยวกับอาชีพเสริมให้แก่ผู้ปกครองและชุมชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ค. ครูปฏิเสธคำขอของชุมชนในการเป็นวิทยากรเพราะไม่ได้ค่าตอบแทน
ง. ครูสอนพิเศษในชุมชนโดยคิดค่าใช้จ่ายสูง

37. ข้อใดคือบทบาทของครูในการเป็นผู้นำในการสร้างความเข้มแข็งของชุมชน

ก. สอนหนังสือตามหน้าที่โดยไม่เกี่ยวข้องกับชุมชน
ข. ส่งเสริมให้ชุมชนรวมกลุ่มเพื่อพัฒนาอาชีพและรายได้
ค. ไม่เข้าร่วมกิจกรรมของชุมชนเพราะไม่เกี่ยวข้องกับการสอน
ง. รอให้ผู้บริหารสั่งการก่อนจึงจะร่วมมือกับชุมชน

38. ข้อใดไม่ใช่พฤติกรรมที่แสดงถึงการเป็นผู้นำในการสร้างสันติสุขในสังคม

ก. สอนให้นักเรียนรู้จักการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
ข. ปลูกฝังให้นักเรียนเคารพความแตกต่างทางความคิดและวัฒนธรรม
ค. ส่งเสริมให้นักเรียนมีความขัดแย้งเพื่อพัฒนาตนเอง
ง. จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมความสามัคคีในชุมชน

39. “ครูควรประพฤติตนเป็นพลเมืองดีและปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบของสังคม” ข้อความนี้สอดคล้องกับจรรยาบรรณข้อใด

40. ข้อใดเป็นการแสดงออกถึงการมีจรรยาบรรณต่อสังคมในด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรม

ก. จัดกิจกรรมการแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นในโรงเรียน
ข. ไม่เข้าร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรมของชุมชน
ค. สอนให้นักเรียนละทิ้งวัฒนธรรมเก่าและรับวัฒนธรรมใหม่ทั้งหมด
ง. ไม่สนใจภูมิปัญญาท้องถิ่นเพราะไม่ทันสมัย

ประเด็นทั่วไปเกี่ยวกับจรรยาบรรณวิชาชีพครู

41. ข้อใดคือความหมายของจรรยาบรรณวิชาชีพครู

ก. กฎระเบียบที่ครูต้องปฏิบัติตามเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกลงโทษ
ข. มาตรฐานการปฏิบัติงานที่กำหนดโดยผู้บริหารโรงเรียน
ค. ประมวลความประพฤติที่ผู้ประกอบวิชาชีพครูต้องยึดถือในการปฏิบัติงาน
ง. ข้อบังคับที่ใช้ลงโทษครูที่กระทำผิด

42. องค์กรใดที่มีหน้าที่กำกับดูแลมาตรฐานวิชาชีพครูและจรรยาบรรณวิชาชีพครู

ก. กระทรวงศึกษาธิการ
ข. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ค. คุรุสภา
ง. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

43. การละเมิดจรรยาบรรณวิชาชีพครูมีผลกระทบต่อใครมากที่สุด

ก. ตัวครูผู้ละเมิด
ข. ผู้บริหารโรงเรียน
ค. วิชาชีพครู
ง. นักเรียน

44. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของการมีจรรยาบรรณวิชาชีพครู

ก. ควบคุมความประพฤติของครูให้อยู่ในกรอบที่เหมาะสม
ข. สร้างมาตรฐานในการประกอบวิชาชีพครู
ค. สร้างความเชื่อถือและศรัทธาในวิชาชีพครู
ง. เป็นเครื่องมือในการลงโทษครูเท่านั้น

45. ข้อใดไม่ใช่ความสำคัญของจรรยาบรรณวิชาชีพครู

ก. เป็นเครื่องมือควบคุมคุณภาพของครู
ข. เป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติตนของครู
ค. เป็นหลักประกันคุณภาพให้แก่ผู้รับบริการ
ง. เป็นกฎเกณฑ์ที่ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม

46. การที่ครูบอกให้นักเรียนจดบันทึกการสอนเท่านั้นโดยไม่อธิบายเพิ่มเติม เป็นการผิดจรรยาบรรณในข้อใด

47. “ครูต้องไม่แสวงหาประโยชน์อันเป็นอามิสสินจ้างจากศิษย์” ข้อความนี้สอดคล้องกับจรรยาบรรณข้อใด

48. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของครูที่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพ

ก. มีความรักและศรัทธาในวิชาชีพครู
ข. มีทักษะในการสอนและการถ่ายทอดความรู้
ค. เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ของนักเรียน
ง. มีความรับผิดชอบและตรงต่อเวลา

49. บุคคลใดที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้ครูปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพ

ก. ผู้บริหารสถานศึกษา
ข. นักเรียน
ค. ผู้ปกครอง
ง. ถูกทุกข้อ

50. ข้อใดเป็นการปฏิบัติผิดจรรยาบรรณวิชาชีพครูที่ร้ายแรงที่สุด

ก. ครูมาสอนสายเป็นประจำ
ข. ครูไม่เข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียน
ค. ครูล่วงละเมิดทางเพศต่อนักเรียน
ง. ครูไม่ยอมปรับปรุงวิธีการสอนให้ทันสมัย