แนวข้อสอบครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาการประถมศึกษา
ปรนัย 50 ข้อ พร้อมเฉลย
หลักสูตรและการจัดการเรียนรู้
1. ข้อใดเป็นความสำคัญของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
ก. เป็นหลักสูตรที่มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม
ข. เป็นหลักสูตรที่กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้
ค. เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะกระบวนการคิดขั้นสูง
ง. ถูกทุกข้อ
2. การเรียนรู้แบบ Active Learning เกี่ยวข้องกับข้อใด
ก. การเรียนรู้ที่ผู้เรียนมีบทบาทในการเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วมและตื่นตัว
ข. การเรียนรู้โดยการฟังบรรยายเป็นหลัก
ค. การเรียนรู้ที่เน้นการจดจำเนื้อหา
ง. การเรียนรู้ที่ครูเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ทั้งหมด
3. ข้อใดคือองค์ประกอบสำคัญของการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้
ก. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสำคัญ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อ/แหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินผล
ข. สาระสำคัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ ขั้นนำ ขั้นสอน ขั้นสรุป
ค. ชื่อหน่วยการเรียนรู้ จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กิจกรรม การประเมินผล
ง. ไม่มีข้อถูก
4. การวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคลมีความสำคัญอย่างไรในการจัดการเรียนรู้
ก. ช่วยให้ครูรู้จักผู้เรียนในทุกมิติ นำไปสู่การออกแบบการเรียนรู้ที่ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล
ข. ช่วยให้ครูสามารถแบ่งกลุ่มผู้เรียนตามความสามารถ เพื่อจัดการเรียนการสอนได้ง่ายขึ้น
ค. ช่วยให้ครูสามารถจัดกลุ่มผู้เรียนเก่งและผู้เรียนอ่อนได้ชัดเจน
ง. ช่วยให้ครูทราบจำนวนนักเรียนว่ามีกี่คน เพศใดบ้าง
5. บทบาทของครูในการจัดการเรียนรู้แบบ PBL (Problem-Based Learning) คือข้อใด
ก. ผู้สอนทำหน้าที่อธิบายเนื้อหาทั้งหมด
ข. ผู้อำนวยความสะดวก (Facilitator) และผู้ชี้แนะ (Guide)
ค. ผู้ประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนเพียงอย่างเดียว
ง. ผู้ถ่ายทอดความรู้และเป็นผู้ควบคุมการสอนแบบเบ็ดเสร็จ
6. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของการเรียนรู้แบบบูรณาการ
ก. เชื่อมโยงเนื้อหาสาระต่างๆ เข้าด้วยกัน
ข. เน้นการสอนแยกรายวิชาเพื่อความชัดเจน
ค. ผู้เรียนเห็นความสัมพันธ์ของเนื้อหาที่เรียนกับชีวิตจริง
ง. สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ในสถานการณ์จริงได้
7. ข้อใดคือจุดเน้นสำคัญของการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา
ก. การพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของชุมชนและท้องถิ่น
ข. การพัฒนาหลักสูตรให้เหมือนกับโรงเรียนอื่น
ค. การพัฒนาหลักสูตรที่มีเนื้อหาเข้มข้นเพื่อการสอบแข่งขัน
ง. การพัฒนาหลักสูตรตามที่ส่วนกลางกำหนดเท่านั้น
8. แนวคิดสำคัญของการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain-Based Learning) คือข้อใด
ก. การทำให้ผู้เรียนอยู่ในสภาพความเครียดเพื่อกระตุ้นการเรียนรู้
ข. การจัดการเรียนรู้ที่มุ่งสร้างความท้าทายให้กับผู้เรียนตลอดเวลา
ค. การจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับการทำงานของสมอง และคำนึงถึงพัฒนาการทางสมองของผู้เรียน
ง. การจัดการเรียนรู้ที่เน้นความจำเป็นหลัก
9. ข้อใดหมายถึงการจัดการชั้นเรียนเชิงบวก
ก. การควบคุมชั้นเรียนด้วยการลงโทษเมื่อนักเรียนทำผิดกติกา
ข. การสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ปลอดภัย เอื้อต่อการเรียนรู้ และการบริหารจัดการด้วยความเมตตา
ค. การให้รางวัลนักเรียนที่เรียนเก่งเท่านั้น
ง. การใช้คำพูดเชิงบวกกับนักเรียนเฉพาะกลุ่ม
10. “การออกแบบการเรียนรู้ที่เป็นสากล” (Universal Design for Learning) มีหลักการสำคัญคือข้อใด
ก. การออกแบบการเรียนรู้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เรียนทุกคน รวมถึงผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษ
ข. การออกแบบการเรียนรู้เพื่อนักเรียนเก่งเท่านั้น
ค. การออกแบบการเรียนรู้ที่เน้นการใช้สื่อเทคโนโลยีเท่านั้น
ง. การออกแบบการเรียนรู้ที่เน้นการประเมินผลการเรียนเป็นหลัก
การพัฒนาผู้เรียนระดับประถมศึกษา
11. พัฒนาการด้านใดของเด็กวัยประถมศึกษาที่มีความสำคัญต่อการเรียนรู้มากที่สุด
ก. พัฒนาการทางร่างกาย
ข. พัฒนาการทางสติปัญญา
ค. พัฒนาการทางอารมณ์
ง. พัฒนาการด้านต่างๆ มีความสำคัญต่อการเรียนรู้ในวัยประถมศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน
12. ข้อใดคือแนวทางการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์สำหรับนักเรียนประถมศึกษา
ก. การให้ท่องจำเนื้อหาในหนังสือเรียน
ข. การให้ทำแบบฝึกหัดซ้ำๆ เหมือนเดิม
ค. การจัดกิจกรรมที่กระตุ้นให้นักเรียนสังเกต เปรียบเทียบ จัดหมวดหมู่ และสรุปความรู้
ง. การจัดการเรียนรู้ที่เน้นความจำเพียงอย่างเดียว
13. การพัฒนาทักษะการรู้เท่าทันสื่อ (Media Literacy) สำหรับเด็กประถมศึกษาควรคำนึงถึงสิ่งใดเป็นสำคัญ
ก. การให้เด็กเรียนรู้เกี่ยวกับอันตรายของสื่อออนไลน์เท่านั้น
ข. การสอนให้เด็กรู้จักวิเคราะห์ แยกแยะ ประเมินคุณค่าและความน่าเชื่อถือของสื่อที่พบเจอ
ค. การห้ามไม่ให้เด็กเข้าถึงสื่อทุกประเภท
ง. การสอนให้เด็กใช้สื่อได้ทุกประเภทอย่างอิสระ
14. แนวทางการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมที่เหมาะสมกับนักเรียนประถมศึกษาคือข้อใด
ก. การบรรยายเกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรมที่ควรปฏิบัติ
ข. การอ่านหนังสือเกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรมเพียงอย่างเดียว
ค. การฝึกให้นักเรียนท่องจำหลักธรรมคำสอนต่างๆ
ง. การจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการปฏิบัติจริง เช่น การเล่านิทานคุณธรรม บทบาทสมมติ กิจกรรมจิตอาสา
15. ข้อใดคือแนวทางการพัฒนาทักษะทางสังคมสำหรับนักเรียนประถมศึกษา
ก. ให้นักเรียนทำงานคนเดียวเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง
ข. จัดกิจกรรมกลุ่มที่ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน การแบ่งปัน การรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
ค. แยกนักเรียนที่มีปัญหาพฤติกรรมออกจากเพื่อน
ง. ให้รางวัลเฉพาะนักเรียนที่เข้ากับผู้อื่นได้ดี
16. การพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กของนักเรียนประถมศึกษาตอนต้นมีความสำคัญอย่างไร
ก. ช่วยให้นักเรียนอ่านได้ดีขึ้น
ข. ช่วยให้นักเรียนมีพัฒนาการด้านการฟังที่ดี
ค. ช่วยในการเขียน การวาด และการทำกิจกรรมที่ต้องใช้ความละเอียดของมือและนิ้ว
ง. ช่วยในการออกกำลังกายเท่านั้น
17. แนวทางการพัฒนา EF (Executive Functions) หรือทักษะสมองเพื่อชีวิตที่สำเร็จสำหรับเด็กประถมศึกษาคือข้อใด
ก. การจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะการคิดเชิงบริหาร เช่น การวางแผน การจัดระบบ การควบคุมอารมณ์
ข. การให้ทำแบบฝึกหัดทางคณิตศาสตร์จำนวนมาก
ค. การให้นักเรียนท่องจำข้อมูลต่างๆ
ง. การเน้นการพัฒนาทักษะด้านวิชาการเพียงอย่างเดียว
18. ข้อใดไม่ใช่แนวทางการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) สำหรับนักเรียนประถมศึกษา
ก. การสอนให้นักเรียนรู้จักอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น
ข. การฝึกให้นักเรียนควบคุมอารมณ์ของตนเอง
ค. การสอนให้นักเรียนปกปิดความรู้สึกของตนเองเสมอ
ง. การจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น
19. การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนประถมศึกษาควรเน้นแนวทางใด
ก. การท่องจำคำศัพท์และไวยากรณ์เป็นหลัก
ข. การสอนผ่านกิจกรรมที่สนุกสนาน เน้นการสื่อสารในชีวิตประจำวัน สร้างทัศนคติที่ดีต่อการเรียนภาษา
ค. การเรียนการสอนที่เน้นการอ่านและเขียนเท่านั้น
ง. การใช้การแปลภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษเป็นหลัก
20. ความสำคัญของการพัฒนาทักษะชีวิตสำหรับนักเรียนประถมศึกษาคือข้อใด
ก. ช่วยให้นักเรียนมีผลการเรียนดีเท่านั้น
ข. ช่วยให้นักเรียนสามารถจดจำเนื้อหาวิชาการได้มากขึ้น
ค. ช่วยให้นักเรียนสามารถปรับตัว รับมือกับสถานการณ์ต่างๆ และดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข
ง. ช่วยให้นักเรียนเลือกอาชีพในอนาคตได้
การวัดและประเมินผลระดับประถมศึกษา
21. ข้อใดคือหลักการสำคัญของการวัดและประเมินผลในระดับประถมศึกษา
ก. ประเมินเพื่อตัดสินผลการเรียนเพียงอย่างเดียว
ข. ประเมินเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ (Assessment for Learning) และประเมินผลการเรียนรู้ (Assessment of Learning)
ค. ประเมินโดยใช้แบบทดสอบอย่างเดียว
ง. ประเมินเฉพาะความรู้เป็นหลัก
22. การประเมินตามสภาพจริง (Authentic Assessment) มีลักษณะสำคัญอย่างไร
ก. เป็นการประเมินที่เน้นการทดสอบความจำ
ข. เป็นการประเมินโดยใช้แบบทดสอบมาตรฐานเท่านั้น
ค. เป็นการประเมินที่เน้นให้ผู้เรียนแสดงออกถึงความรู้ ความสามารถ ทักษะ ในสถานการณ์ที่สอดคล้องกับชีวิตจริง
ง. เป็นการประเมินที่ครูเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด
23. ข้อใดไม่ใช่เครื่องมือที่ใช้ในการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง
ก. แบบทดสอบความจำเพียงอย่างเดียว
ข. แฟ้มสะสมงาน (Portfolio)
ค. แบบสังเกตพฤติกรรม
ง. การประเมินโครงงาน
24. ข้อใดคือความหมายของการประเมินเพื่อการเรียนรู้ (Formative Assessment)
ก. การประเมินเพื่อตัดสินผลการเรียนเมื่อจบหน่วยการเรียนรู้
ข. การประเมินระหว่างการจัดการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน
ค. การประเมินเพื่อตัดสินผลการเรียนเมื่อจบปีการศึกษา
ง. การประเมินเพื่อวัดความรู้พื้นฐานของนักเรียนเท่านั้น
25. เทคนิคการประเมินแบบ SOLO Taxonomy เกี่ยวข้องกับการประเมินด้านใด
ก. การประเมินความสามารถในการโต้ตอบของนักเรียน
ข. การประเมินโครงสร้างของผลลัพธ์การเรียนรู้ที่สังเกตได้ (Structure of Observed Learning Outcomes)
ค. การประเมินทักษะการอ่านของนักเรียน
ง. การประเมินความสามารถด้านศิลปะของนักเรียน
26. ข้อใดคือลักษณะของการให้ข้อมูลย้อนกลับเชิงสร้างสรรค์ (Constructive Feedback) แก่นักเรียนประถมศึกษา
ก. การบอกว่าผิดหรือถูกเท่านั้น
ข. การเปรียบเทียบผลงานกับเพื่อนในชั้นเรียน
ค. การให้ข้อมูลเชิงบวก ระบุจุดที่ต้องปรับปรุง และแนะนำแนวทางการพัฒนา
ง. การให้คะแนนโดยไม่อธิบายเหตุผล
27. การบันทึกพัฒนาการของนักเรียนประถมศึกษามีความสำคัญอย่างไร
ก. เพื่อใช้ในการตัดสินผลการเรียนเท่านั้น
ข. เพื่อติดตามความก้าวหน้า พัฒนาการของนักเรียน และนำข้อมูลมาใช้ในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้
ค. เพื่อรายงานต่อผู้บริหารโรงเรียนเท่านั้น
ง. เพื่อจัดอันดับนักเรียนในชั้นเรียน
28. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของการใช้รูบริค (Rubric) ในการประเมินผลงานของนักเรียน
ก. ช่วยให้นักเรียนทราบเกณฑ์และมาตรฐานที่ชัดเจน
ข. ช่วยให้ครูประเมินได้อย่างเที่ยงตรงและน่าเชื่อถือ
ค. ช่วยให้ครูแข่งขันกันว่าใครจะให้คะแนนต่ำกว่ากัน
ง. ช่วยให้ผู้ปกครองเข้าใจการประเมินผลงานของบุตรหลาน
29. การวิเคราะห์ผลการประเมินคุณภาพผู้เรียนมีประโยชน์อย่างไร
ก. เพื่อจัดลำดับโรงเรียนเท่านั้น
ข. เพื่อนำผลมาใช้ในการปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับผู้เรียน
ค. เพื่อตัดสินว่านักเรียนคนใดควรซ้ำชั้น
ง. เพื่อบอกผู้ปกครองว่าบุตรหลานของตนเรียนอ่อนหรือเก่ง
30. ข้อใดคือหลักการสำคัญในการวัดและประเมินผลนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษในชั้นเรียนปกติ
ก. ประเมินเหมือนนักเรียนปกติทุกประการ
ข. ไม่ต้องประเมินเลยเพราะเป็นนักเรียนพิเศษ
ค. ปรับวิธีการวัดและประเมินผลให้เหมาะสมกับความสามารถและศักยภาพของผู้เรียนรายบุคคล
ง. ให้ผ่านไปโดยไม่มีการประเมินใดๆ
นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา
31. ข้อใดคือความหมายของ TPACK Framework ในการจัดการเรียนการสอน
ก. Technical Pedagogy and Content Knowledge
ข. Technological Pedagogical Content Knowledge
ค. Teaching Process and Content Knowledge
ง. Traditional Pedagogy and Content Knowledge
32. แนวคิด Coding for Kids มีความสำคัญต่อการพัฒนาผู้เรียนประถมศึกษาอย่างไร
ก. ช่วยให้นักเรียนเล่นเกมได้มากขึ้น
ข. ช่วยพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณ (Computational Thinking) การคิดวิเคราะห์ และการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
ค. ช่วยให้นักเรียนใช้คอมพิวเตอร์ได้รวดเร็วขึ้น
ง. ช่วยให้นักเรียนเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์ได้ง่ายขึ้น
33. การจัดการเรียนรู้แบบ Gamification หมายถึงอะไร
ก. การให้นักเรียนเล่นเกมแทนการเรียน
ข. การนำกลไกของเกม เช่น การสะสมแต้ม การแข่งขัน มาประยุกต์ใช้ในการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้
ค. การให้นักเรียนสร้างเกมด้วยตนเอง
ง. การใช้เกมออนไลน์ในการสอนเท่านั้น
34. ข้อใดคือประโยชน์ของการใช้ AR (Augmented Reality) ในการจัดการเรียนรู้ระดับประถมศึกษา
ก. ช่วยสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่น่าตื่นเต้น เสมือนจริง และเข้าใจได้ง่าย
ข. ช่วยลดบทบาทของครูในชั้นเรียน
ค. ช่วยให้นักเรียนไม่ต้องอ่านหนังสือ
ง. ช่วยให้นักเรียนได้ใช้เทคโนโลยีแทนการเรียนรู้จริง
35. เทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนรู้ระดับประถมศึกษาได้อย่างไร
ก. ใช้แทนครูในการสอนทั้งหมด
ข. ใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้อัตโนมัติเพียงอย่างเดียว
ค. ใช้ในการปรับเนื้อหาให้เหมาะสมกับผู้เรียนรายบุคคล (Personalized Learning)
ง. ใช้เพื่อให้นักเรียนไม่ต้องคิดเอง
36. แนวคิด Digital Citizenship ที่ควรปลูกฝังให้กับนักเรียนประถมศึกษาประกอบด้วยประเด็นใดบ้าง
ก. การใช้อินเทอร์เน็ตให้มากที่สุด
ข. การเข้าถึงสื่อออนไลน์ทุกประเภทโดยไม่มีข้อจำกัด
ค. การรู้เท่าทันสื่อดิจิทัล การรักษาความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และการมีจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี
ง. การใช้โซเชียลมีเดียเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
37. ข้อใดไม่ใช่หลักการของการใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ
ก. เทคโนโลยีควรสนับสนุนวัตถุประสงค์การเรียนรู้
ข. เทคโนโลยีควรเหมาะสมกับระดับพัฒนาการของผู้เรียน
ค. เทคโนโลยีควรใช้แทนการสอนของครูทั้งหมด
ง. เทคโนโลยีควรเป็นเครื่องมือในการสร้างสรรค์และแก้ปัญหา
38. หลักการสำคัญของห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) คืออะไร
ก. นักเรียนเรียนรู้เนื้อหาที่บ้าน และทำกิจกรรมประยุกต์ใช้ความรู้ในชั้นเรียน
ข. ครูบรรยายในชั้นเรียน และให้นักเรียนทำการบ้านที่บ้าน
ค. ครูและนักเรียนเรียนไปพร้อมกันในชั้นเรียน
ง. นักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเองทั้งหมด โดยไม่ต้องมาโรงเรียน
39. การพัฒนาห้องสมุดดิจิทัลสำหรับโรงเรียนประถมศึกษามีประโยชน์อย่างไร
ก. ทำให้ไม่ต้องมีหนังสือในห้องสมุด
ข. ช่วยให้นักเรียนเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา และหลากหลายรูปแบบ
ค. ช่วยให้ครูไม่ต้องสอนนักเรียน
ง. ช่วยให้โรงเรียนประหยัดงบประมาณค่าหนังสือเท่านั้น
40. เครื่องมือดิจิทัลประเภทใดที่เหมาะสมสำหรับการสร้างชิ้นงานของนักเรียนประถมศึกษา
ก. เครื่องมือสร้างสื่อนำเสนอแบบง่าย เช่น Canva, Book Creator
ข. เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง เช่น Power BI
ค. เครื่องมือเขียนโปรแกรมระดับสูง
ง. เครื่องมือตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ
การพัฒนาภาษาและการสื่อสาร
41. แนวทางการพัฒนาทักษะการอ่านคล่องสำหรับนักเรียนประถมศึกษาที่เหมาะสมคือข้อใด
ก. การให้นักเรียนท่องจำคำศัพท์ยากๆ ให้ได้มากที่สุด
ข. การฝึกอ่านบ่อยๆ ใช้สื่อที่หลากหลาย และปรับความยากง่ายให้เหมาะสมกับระดับความสามารถ
ค. การให้นักเรียนอ่านหนังสือเล่มหนาๆ โดยไม่สนใจว่าจะเข้าใจหรือไม่
ง. การให้นักเรียนจดจำคำที่อ่านผิดบ่อยๆ เท่านั้น
42. การจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านสำหรับนักเรียนประถมศึกษาควรคำนึงถึงสิ่งใดเป็นสำคัญ
ก. การบังคับให้นักเรียนอ่านหนังสือวันละ 2 ชั่วโมง
ข. การจัดกิจกรรมที่สนุกสนาน น่าสนใจ สอดคล้องกับความสนใจของนักเรียน และบูรณาการกับชีวิตประจำวัน
ค. การให้รางวัลผู้ที่อ่านหนังสือได้มากที่สุดเท่านั้น
ง. การจัดการแข่งขันอ่านหนังสือเพียงอย่างเดียว
43. ข้อใดคือแนวทางการพัฒนาทักษะการเขียนสำหรับนักเรียนประถมศึกษา
ก. การให้เขียนตามคำบอกเพียงอย่างเดียว
ข. การให้คัดลายมือทุกวัน วันละหลายๆ หน้า
ค. การจัดกิจกรรมการเขียนที่หลากหลาย เช่น การเขียนเล่าเรื่อง การเขียนจากประสบการณ์ การเขียนสร้างสรรค์
ง. การให้เขียนรายงานเชิงวิชาการอย่างเดียว
44. การพัฒนาทักษะการฟังอย่างมีวิจารณญาณสำหรับนักเรียนประถมศึกษาควรทำอย่างไร
ก. ให้นักเรียนฟังและจดจำสิ่งที่ครูพูดเท่านั้น
ข. ฝึกให้นักเรียนฟังอย่างตั้งใจ วิเคราะห์สิ่งที่ได้ฟัง และสามารถแยกแยะข้อเท็จจริง ความคิดเห็น
ค. ให้นักเรียนฟังเพลงที่ชอบเท่านั้น
ง. ไม่จำเป็นต้องสอนทักษะการฟังเพราะเป็นทักษะที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
45. แนวทางการพัฒนาทักษะการพูดหน้าชั้นเรียนสำหรับนักเรียนประถมศึกษาคือข้อใด
ก. ให้นักเรียนพูดหน้าชั้นเรียนโดยไม่ต้องมีการเตรียมตัว
ข. ให้นักเรียนท่องจำบทพูดที่ครูเขียนให้
ค. จัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้พูดบ่อยๆ เริ่มจากกลุ่มเล็กไปสู่กลุ่มใหญ่ และให้คำแนะนำอย่างสร้างสรรค์
ง. ให้นักเรียนที่กล้าแสดงออกเท่านั้นที่ได้พูดหน้าชั้นเรียน
46. การจัดการเรียนรู้แบบ Language Experience Approach (LEA) มีหลักการสำคัญอย่างไร
ก. เน้นการสอนไวยากรณ์เป็นหลัก
ข. ใช้ประสบการณ์ของผู้เรียนเป็นพื้นฐานในการพัฒนาทักษะภาษา โดยเฉพาะการอ่านและการเขียน
ค. เน้นการท่องจำคำศัพท์เป็นหลัก
ง. เน้นการแปลภาษาต่างประเทศเป็นภาษาไทย
47. ความสำคัญของการพัฒนาคลังคำศัพท์ (Vocabulary) สำหรับนักเรียนประถมศึกษาคืออะไร
ก. ช่วยให้นักเรียนท่องจำศัพท์ได้มาก
ข. ช่วยให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาที่อ่านได้ดีขึ้น และสามารถสื่อสารได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ค. ช่วยให้นักเรียนสอบได้คะแนนดีเท่านั้น
ง. ช่วยให้นักเรียนเขียนตามคำบอกได้ถูกต้อง
48. กิจกรรมใดเหมาะสมในการพัฒนาทักษะการสื่อสารแบบบูรณาการสำหรับนักเรียนประถมศึกษา
ก. การท่องจำกฎไวยากรณ์ภาษาไทย
ข. การทำแบบฝึกหัดการอ่านเพียงอย่างเดียว
ค. การจัดกิจกรรมละครในห้องเรียน การนำเสนอโครงงาน หรือการจัดนิทรรศการ
ง. การคัดลายมือวันละหลาย ๆ หน้า
49. แนวทางการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในระดับประถมศึกษาควรเน้นอะไร
ก. การเรียนไวยากรณ์อย่างเข้มข้น
ข. การแปลประโยคภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย
ค. การสอนผ่านกิจกรรมที่เน้นการสื่อสารในสถานการณ์จริง และการสร้างทัศนคติที่ดีต่อการเรียนภาษา
ง. การท่องจำบทสนทนาภาษาอังกฤษ
50. ข้อใดเป็นแนวทางการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ผ่านการอ่านสำหรับนักเรียนประถมศึกษา
ก. การอ่านเพื่อจับใจความสำคัญเท่านั้น
ข. การถามคำถามปลายปิดเกี่ยวกับเนื้อเรื่องที่อ่าน
ค. การฝึกให้นักเรียนตั้งคำถาม วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือ เปรียบเทียบข้อมูล และประเมินค่าสิ่งที่อ่าน
ง. การให้นักเรียนสรุปเนื้อเรื่องที่อ่านโดยคัดลอกจากต้นฉบับ
Review ลูกค้า
เฉลยข้อสอบ แนวข้อสอบครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาการประถมศึกษา ปรนัย 50 ข้อ พร้อมเฉลย
1. ง. ถูกทุกข้อ
2. ก. การเรียนรู้ที่ผู้เรียนมีบทบาทในการเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วมและตื่นตัว
3. ก. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสำคัญ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อ/แหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินผล
4. ก. ช่วยให้ครูรู้จักผู้เรียนในทุกมิติ นำไปสู่การออกแบบการเรียนรู้ที่ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล
5. ข. ผู้อำนวยความสะดวก (Facilitator) และผู้ชี้แนะ (Guide)
6. ข. เน้นการสอนแยกรายวิชาเพื่อความชัดเจน
7. ก. การพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของชุมชนและท้องถิ่น
8. ค. การจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับการทำงานของสมอง และคำนึงถึงพัฒนาการทางสมองของผู้เรียน
9. ข. การสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ปลอดภัย เอื้อต่อการเรียนรู้ และการบริหารจัดการด้วยความเมตตา
10. ก. การออกแบบการเรียนรู้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เรียนทุกคน รวมถึงผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษ
11. ง. พัฒนาการด้านต่างๆ มีความสำคัญต่อการเรียนรู้ในวัยประถมศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน
12. ค. การจัดกิจกรรมที่กระตุ้นให้นักเรียนสังเกต เปรียบเทียบ จัดหมวดหมู่ และสรุปความรู้
13. ข. การสอนให้เด็กรู้จักวิเคราะห์ แยกแยะ ประเมินคุณค่าและความน่าเชื่อถือของสื่อที่พบเจอ
14. ง. การจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการปฏิบัติจริง เช่น การเล่านิทานคุณธรรม บทบาทสมมติ กิจกรรมจิตอาสา
15. ข. จัดกิจกรรมกลุ่มที่ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน การแบ่งปัน การรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
16. ค. ช่วยในการเขียน การวาด และการทำกิจกรรมที่ต้องใช้ความละเอียดของมือและนิ้ว
17. ก. การจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะการคิดเชิงบริหาร เช่น การวางแผน การจัดระบบ การควบคุมอารมณ์
18. ค. การสอนให้นักเรียนปกปิดความรู้สึกของตนเองเสมอ
19. ข. การสอนผ่านกิจกรรมที่สนุกสนาน เน้นการสื่อสารในชีวิตประจำวัน สร้างทัศนคติที่ดีต่อการเรียนภาษา
20. ค. ช่วยให้นักเรียนสามารถปรับตัว รับมือกับสถานการณ์ต่างๆ และดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข
21. ข. ประเมินเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ (Assessment for Learning) และประเมินผลการเรียนรู้ (Assessment of Learning)
22. ค. เป็นการประเมินที่เน้นให้ผู้เรียนแสดงออกถึงความรู้ ความสามารถ ทักษะ ในสถานการณ์ที่สอดคล้องกับชีวิตจริง
23. ก. แบบทดสอบความจำเพียงอย่างเดียว
24. ข. การประเมินระหว่างการจัดการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน
25. ข. การประเมินโครงสร้างของผลลัพธ์การเรียนรู้ที่สังเกตได้ (Structure of Observed Learning Outcomes)
26. ค. การให้ข้อมูลเชิงบวก ระบุจุดที่ต้องปรับปรุง และแนะนำแนวทางการพัฒนา
27. ข. เพื่อติดตามความก้าวหน้า พัฒนาการของนักเรียน และนำข้อมูลมาใช้ในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้
28. ค. ช่วยให้ครูแข่งขันกันว่าใครจะให้คะแนนต่ำกว่ากัน
29. ข. เพื่อนำผลมาใช้ในการปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับผู้เรียน
30. ค. ปรับวิธีการวัดและประเมินผลให้เหมาะสมกับความสามารถและศักยภาพของผู้เรียนรายบุคคล
31. ข. Technological Pedagogical Content Knowledge
32. ข. ช่วยพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณ (Computational Thinking) การคิดวิเคราะห์ และการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
33. ข. การนำกลไกของเกม เช่น การสะสมแต้ม การแข่งขัน มาประยุกต์ใช้ในการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้
34. ก. ช่วยสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่น่าตื่นเต้น เสมือนจริง และเข้าใจได้ง่าย
35. ค. ใช้ในการปรับเนื้อหาให้เหมาะสมกับผู้เรียนรายบุคคล (Personalized Learning)
36. ค. การรู้เท่าทันสื่อดิจิทัล การรักษาความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และการมีจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี
37. ค. เทคโนโลยีควรใช้แทนการสอนของครูทั้งหมด
38. ก. นักเรียนเรียนรู้เนื้อหาที่บ้าน และทำกิจกรรมประยุกต์ใช้ความรู้ในชั้นเรียน
39. ข. ช่วยให้นักเรียนเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา และหลากหลายรูปแบบ
40. ก. เครื่องมือสร้างสื่อนำเสนอแบบง่าย เช่น Canva, Book Creator
41. ข. การฝึกอ่านบ่อยๆ ใช้สื่อที่หลากหลาย และปรับความยากง่ายให้เหมาะสมกับระดับความสามารถ
42. ข. การจัดกิจกรรมที่สนุกสนาน น่าสนใจ สอดคล้องกับความสนใจของนักเรียน และบูรณาการกับชีวิตประจำวัน
43. ค. การจัดกิจกรรมการเขียนที่หลากหลาย เช่น การเขียนเล่าเรื่อง การเขียนจากประสบการณ์ การเขียนสร้างสรรค์
44. ข. ฝึกให้นักเรียนฟังอย่างตั้งใจ วิเคราะห์สิ่งที่ได้ฟัง และสามารถแยกแยะข้อเท็จจริง ความคิดเห็น
45. ค. จัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้พูดบ่อยๆ เริ่มจากกลุ่มเล็กไปสู่กลุ่มใหญ่ และให้คำแนะนำอย่างสร้างสรรค์
46. ข. ใช้ประสบการณ์ของผู้เรียนเป็นพื้นฐานในการพัฒนาทักษะภาษา โดยเฉพาะการอ่านและการเขียน
47. ข. ช่วยให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาที่อ่านได้ดีขึ้น และสามารถสื่อสารได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
48. ค. การจัดกิจกรรมละครในห้องเรียน การนำเสนอโครงงาน หรือการจัดนิทรรศการ
49. ค. การสอนผ่านกิจกรรมที่เน้นการสื่อสารในสถานการณ์จริง และการสร้างทัศนคติที่ดีต่อการเรียนภาษา
50. ค. การฝึกให้นักเรียนตั้งคำถาม วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือ เปรียบเทียบข้อมูล และประเมินค่าสิ่งที่อ่าน
แจกฟรี แนวข้อสอบครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาการประถมศึกษา ปรนัย 50 ข้อ พร้อมเฉลย