แนวข้อสอบครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาการตลาด ปรนัย 50 ข้อ พร้อมเฉลย
คำชี้แจง
- ข้อสอบมีทั้งหมด 50 ข้อ ข้อละ 2 คะแนน รวม 100 คะแนน
- ให้เลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
ส่วนที่ 1: หลักการและแนวคิดพื้นฐานทางการตลาด
- ข้อใดคือความหมายของการตลาดที่ถูกต้องที่สุด
- ก. การขายสินค้าและบริการให้ได้กำไรสูงสุด
- ข. กระบวนการวางแผน กำหนดราคา ส่งเสริมการขาย และการจัดจำหน่ายสินค้า
- ค. กระบวนการทางสังคมและการบริหารที่บุคคลและกลุ่มบุคคลได้รับสิ่งที่สนองความต้องการ
- และความปรารถนาจากการสร้าง การเสนอ และการแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์
- ง. การโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้าให้เป็นที่รู้จัก
- ส่วนประสมทางการตลาด (Marketing Mix) ประกอบด้วยกี่ส่วน
- ก. 3 ส่วน
- ข. 4 ส่วน
- ค. 5 ส่วน
- ง. 7 ส่วน
- ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยในส่วนประสมทางการตลาด (4Ps)
- ก. ผลิตภัณฑ์ (Product)
- ข. การส่งเสริมการตลาด (Promotion)
- ค. พนักงาน (People)
- ง. การจัดจำหน่าย (Place)
- สภาพแวดล้อมทางการตลาดภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้เรียกว่าอะไร
- ก. สภาพแวดล้อมจุลภาค
- ข. สภาพแวดล้อมมหภาค
- ค. สภาพแวดล้อมภายใน
- ง. สภาพแวดล้อมการแข่งขัน
- ข้อใดไม่ใช่ขั้นตอนในกระบวนการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค
- ก. การรับรู้ถึงความต้องการ
- ข. การประเมินทางเลือก
- ค. การพัฒนาผลิตภัณฑ์
- ง. การค้นหาข้อมูล
- การแบ่งส่วนตลาด (Market Segmentation) ตามลักษณะทางภูมิศาสตร์หมายถึงการแบ่งตามอะไร
- ก. เพศ อายุ รายได้
- ข. ภูมิภาค ประเทศ เมือง
- ค. พฤติกรรมการซื้อ
- ง. ความคิด ความเชื่อ ค่านิยม
- ส่วนประสมทางการตลาดบริการ (7Ps) เพิ่มเติมจาก 4Ps ด้วยปัจจัยใดบ้าง
- ก. บุคลากร กระบวนการ และลักษณะทางกายภาพ
- ข. นโยบาย การเมือง และภาวะเศรษฐกิจ
- ค. การผลิต การเงิน และการจัดการ
- ง. การวางแผน การจัดการ และการควบคุม
- แนวคิด “การตลาด 4.0” (Marketing 4.0) ให้ความสำคัญกับสิ่งใดมากที่สุด
- ก. การผลิตสินค้าคุณภาพสูง
- ข. การลดต้นทุนการผลิต
- ค. การผสมผสานเทคโนโลยีดิจิทัลกับการตลาดแบบดั้งเดิม
- ง. การใช้พนักงานขายที่มีประสิทธิภาพ
- กลยุทธ์การตลาดแบบมุ่งเน้น (Focus Strategy) หมายถึงอะไร
- ก. การมุ่งเน้นการผลิตสินค้าปริมาณมาก
- ข. การมุ่งเน้นตลาดเฉพาะกลุ่มหรือตลาดเฉพาะ (Niche Market)
- ค. การมุ่งเน้นการโฆษณาที่เข้มข้น
- ง. การมุ่งเน้นการลดต้นทุนการผลิต
- SWOT Analysis ประกอบด้วยอะไรบ้าง
- ก. จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และการตัดสินใจ
- ข. จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และรูปแบบธุรกิจ
- ค. จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค
- ง. จุดแข็ง จุดอ่อน กำไร และยอดขาย
ส่วนที่ 2: การวิจัยตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภค
- ข้อใดคือความหมายของการวิจัยตลาดที่ถูกต้องที่สุด
- ก. การสำรวจความคิดเห็นของลูกค้าเกี่ยวกับสินค้า
- ข. การเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างเป็นระบบเพื่อใช้ในการตัดสินใจทางการตลาด
- ค. การวิเคราะห์ยอดขายของคู่แข่ง
- ง. การทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่ในตลาด
- การเก็บข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Data) ในการวิจัยตลาดคืออะไร
- ก. ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากห้องสมุด
- ข. ข้อมูลที่รวบรวมจากอินเทอร์เน็ต
- ค. ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากแหล่งข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะของการวิจัย
- ง. ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากหน่วยงานของรัฐ
- พฤติกรรมผู้บริโภคได้รับอิทธิพลจากปัจจัยใดบ้าง
- ก. ปัจจัยด้านวัฒนธรรม สังคม ส่วนบุคคล และจิตวิทยา
- ข. ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ การเมือง และเทคโนโลยีเท่านั้น
- ค. ปัจจัยด้านการตลาดเท่านั้น
- ง. ปัจจัยด้านราคาและคุณภาพสินค้าเท่านั้น
- ทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์ (Maslow’s Hierarchy of Needs) ขั้นสูงสุดคืออะไร
- ก. ความต้องการทางกายภาพ
- ข. ความต้องการความปลอดภัย
- ค. ความต้องการการยอมรับนับถือ
- ง. ความต้องการความสำเร็จในชีวิต
- การวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) มีลักษณะอย่างไร
- ก. เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่
- ข. วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติขั้นสูง
- ค. เน้นการเก็บข้อมูลเชิงลึกจากกลุ่มตัวอย่างขนาดเล็ก
- ง. ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือหลัก
- Customer Journey คืออะไร
- ก. เส้นทางการเดินทางของลูกค้าไปยังร้านค้า
- ข. กระบวนการที่ลูกค้าผ่านไปตั้งแต่การรับรู้ถึงความต้องการจนซื้อและหลังซื้อ
- ค. วิธีการขนส่งสินค้าไปยังลูกค้า
- ง. วิธีการที่ลูกค้าใช้ผลิตภัณฑ์
- ขนาดของกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยตลาดขึ้นอยู่กับปัจจัยใดบ้าง
- ก. งบประมาณเท่านั้น
- ข. ความน่าเชื่อถือของการวิจัยเท่านั้น
- ค. ขนาดของประชากร ระดับความเชื่อมั่น และความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้
- ง. ความต้องการของผู้บริหารเท่านั้น
- ข้อใดไม่ใช่วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลในการวิจัยตลาด
- ก. การสัมภาษณ์เชิงลึก
- ข. การสนทนากลุ่ม (Focus Group)
- ค. การสังเกตการณ์
- ง. การลดราคาสินค้า
- Net Promoter Score (NPS) ใช้วัดอะไร
- ก. ความพึงพอใจของลูกค้า
- ข. ความภักดีของลูกค้าและความเป็นไปได้ที่จะแนะนำผลิตภัณฑ์ให้ผู้อื่น
- ค. ประสิทธิภาพของพนักงานขาย
- ง. มูลค่าตลอดชีวิตของลูกค้า
- Customer Persona คืออะไร
- ก. พนักงานที่ให้บริการลูกค้า
- ข. ตัวแทนสมมติของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีลักษณะ พฤติกรรม และความต้องการคล้ายกัน
- ค. บุคคลที่มีชื่อเสียงที่เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้า
- ง. ระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการบริการลูกค้า
ส่วนที่ 3: กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์และการพัฒนาผลิตภัณฑ์
- วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Product Life Cycle) ประกอบด้วยกี่ขั้นตอน
- ก. 3 ขั้นตอน
- ข. 4 ขั้นตอน
- ค. 5 ขั้นตอน
- ง. 6 ขั้นตอน
- ขั้นตอนใดในวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายสูงสุด
- ก. ขั้นแนะนำ (Introduction)
- ข. ขั้นเจริญเติบโต (Growth)
- ค. ขั้นเติบโตเต็มที่ (Maturity)
- ง. ขั้นถดถอย (Decline)
- ความหมายของ Boston Consulting Group Matrix คืออะไร
- ก. เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ส่วนแบ่งตลาดเทียบกับการเติบโตของตลาด
- ข. เครื่องมือที่ใช้ในการกำหนดราคาสินค้า
- ค. เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์คู่แข่ง
- ง. เครื่องมือที่ใช้ในการวางแผนการจัดจำหน่าย
- ข้อใดคือตำแหน่งผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงและอัตราการเติบโตของตลาดสูงใน BCG Matrix
- ก. Question Mark
- ข. Star
- ค. Cash Cow
- ง. Dog
- การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ (New Product Development) มีกี่ขั้นตอน
- ก. 5 ขั้นตอน
- ข. 6 ขั้นตอน
- ค. 7 ขั้นตอน
- ง. 8 ขั้นตอน
- ขั้นตอนใดที่เป็นขั้นตอนแรกในกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่
- ก. การทดสอบตลาด
- ข. การพัฒนาแนวคิดผลิตภัณฑ์
- ค. การสร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบ
- ง. การสร้างสรรค์ความคิด
- Brand Equity หมายถึงอะไร
- ก. มูลค่าทางการเงินของตราสินค้า
- ข. คุณค่าที่ตราสินค้ามีในสายตาของผู้บริโภค
- ค. ส่วนแบ่งตลาดของตราสินค้า
- ง. จำนวนผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้า
- การขยายสายผลิตภัณฑ์ (Line Extension) หมายถึงอะไร
- ก. การเพิ่มสายการผลิตใหม่
- ข. การเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในสายผลิตภัณฑ์เดิมที่มีอยู่
- ค. การเข้าสู่ตลาดใหม่ด้วยผลิตภัณฑ์เดิม
- ง. การขยายโรงงานผลิต
- กลยุทธ์ตราสินค้าร่วม (Co-branding) คืออะไร
- ก. การนำตราสินค้าของคู่แข่งมาใช้ร่วมกัน
- ข. การใช้ตราสินค้ามากกว่าหนึ่งตราร่วมกันในผลิตภัณฑ์หรือบริการเดียวกัน
- ค. การเปลี่ยนชื่อตราสินค้า
- ง. การใช้ตราสินค้าเดียวกันกับทุกผลิตภัณฑ์ในบริษัท
- องค์ประกอบของผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์ (Total Product) ประกอบด้วยอะไรบ้าง
- ก. ผลิตภัณฑ์หลัก ผลิตภัณฑ์ที่แท้จริง และผลิตภัณฑ์เสริม
- ข. ผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้
- ค. ผลิตภัณฑ์อุปโภคและผลิตภัณฑ์บริโภค
- ง. ผลิตภัณฑ์ภายในและผลิตภัณฑ์ภายนอก
ส่วนที่ 4: กลยุทธ์ราคาและการจัดจำหน่าย
- ราคาที่ทำให้เกิดจุดคุ้มทุน (Break-even Point) คืออะไร
- ก. ราคาที่ทำให้กำไรสูงสุด
- ข. ราคาที่ทำให้รายรับเท่ากับรายจ่าย
- ค. ราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่ง
- ง. ราคาที่ลูกค้าพอใจที่สุด
- กลยุทธ์การตั้งราคาแบบ Penetration Pricing คืออะไร
- ก. การตั้งราคาสูงในช่วงแรกแล้วค่อยๆ ลดราคาลง
- ข. การตั้งราคาต่ำเพื่อเจาะตลาดและเพิ่มส่วนแบ่งตลาด
- ค. การตั้งราคาให้เท่ากับคู่แข่ง
- ง. การตั้งราคาตามต้นทุนบวกกำไร
- กลยุทธ์การตั้งราคาแบบ Skimming Pricing คืออะไร
- ก. การตั้งราคาต่ำเพื่อเจาะตลาด
- ข. การตั้งราคาสูงในช่วงแรกเพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ยอมจ่ายแพง แล้วค่อยๆ ลดราคาลง
- ค. การตั้งราคาให้เท่ากับคู่แข่ง
- ง. การตั้งราคาให้เหมาะสมกับแต่ละส่วนตลาด
- ช่องทางการจัดจำหน่ายแบบทางตรง (Direct Channel) คืออะไร
- ก. การจำหน่ายสินค้าผ่านพ่อค้าคนกลาง
- ข. การจำหน่ายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่าย
- ค. การจำหน่ายสินค้าจากผู้ผลิตถึงผู้บริโภคโดยตรง
- ง. การจำหน่ายสินค้าผ่านร้านค้าปลีก
- Supply Chain Management หมายถึงอะไร
- ก. การจัดการคลังสินค้า
- ข. การจัดการกระบวนการตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบจนถึงการส่งมอบสินค้าให้ลูกค้า
- ค. การจัดการการขนส่ง
- ง. การจัดการราคา
- Omni-Channel Marketing คืออะไร
- ก. การใช้ช่องทางการตลาดเพียงช่องทางเดียว
- ข. การใช้หลายช่องทางการตลาดแต่แยกกันโดยสิ้นเชิง
- ค. การใช้หลายช่องทางการตลาดที่เชื่อมโยงและบูรณาการกัน
- ง. การใช้ช่องทางการตลาดออนไลน์เท่านั้น
- การกระจายสินค้าแบบเข้มข้น (Intensive Distribution) เหมาะกับสินค้าประเภทใด
- ก. สินค้าฟุ่มเฟือย
- ข. สินค้าเฉพาะทาง
- ค. สินค้าอุตสาหกรรม
- ง. สินค้าสะดวกซื้อ
- ปัจจัยใดที่มีผลต่อการเลือกช่องทางการจัดจำหน่าย
- ก. ลักษณะของผลิตภัณฑ์ ลักษณะของตลาด และลักษณะของคู่แข่ง
- ข. ราคาเท่านั้น
- ค. การโฆษณาเท่านั้น
- ง. ความชอบส่วนตัวของผู้บริหารเท่านั้น
- การกำหนดราคาตามคุณค่าที่ลูกค้ารับรู้ (Value-based Pricing) คืออะไร
- ก. การกำหนดราคาตามต้นทุนการผลิต
- ข. การกำหนดราคาตามที่ลูกค้ารับรู้ถึงคุณค่าของสินค้าหรือบริการ
- ค. การกำหนดราคาตามคู่แข่ง
- ง. การกำหนดราคาตามกำลังซื้อของลูกค้า
- ข้อใดไม่ใช่ข้อได้เปรียบของการขายตรง (Direct Selling)
- ก. สามารถให้ข้อมูลโดยละเอียดแก่ลูกค้า
- ข. สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้โดยตรง
- ค. ประหยัดต้นทุนการจัดจำหน่าย
- ง. เข้าถึงลูกค้าได้ในวงกว้าง
ส่วนที่ 5: การสื่อสารการตลาดและการตลาดดิจิทัล
- IMC (Integrated Marketing Communication) หมายถึงอะไร
- ก. การใช้เครื่องมือสื่อสารการตลาดหลายรูปแบบร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
- ข. การโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัล
- ค. การสื่อสารภายในองค์กร
- ง. การสื่อสารกับซัพพลายเออร์
- Content Marketing คืออะไร
- ก. การตลาดที่เน้นเนื้อหาที่มีคุณค่าเพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย
- ข. การตลาดที่เน้นการขายโดยตรง
- ค. การตลาดที่เน้นการลดราคา
- ง. การตลาดที่เน้นการโฆษณาผ่านสื่อหลัก
- Viral Marketing คืออะไร
- ก. การตลาดผ่านการส่งต่อข้อมูลจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งอย่างรวดเร็ว
- ข. การตลาดที่เกี่ยวข้องกับไวรัสคอมพิวเตอร์
- ค. การตลาดที่ทำให้ลูกค้าเจ็บป่วย
- ง. การตลาดที่ใช้งบประมาณสูง
- SEO (Search Engine Optimization) คืออะไร
- ก. การซื้อโฆษณาบนเครื่องมือค้นหา
- ข. การปรับปรุงเว็บไซต์ให้ติดอันดับสูงในผลการค้นหาแบบธรรมชาติ
- ค. การสร้างเว็บไซต์ใหม่
- ง. การวิเคราะห์คู่แข่ง
- Social Media Marketing มีข้อดีอย่างไร
- ก. ต้นทุนต่ำ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดี และมีการตอบโต้ได้ทันที
- ข. ไม่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์
- ค. ไม่ต้องวางแผนการตลาด
- ง. ไม่ต้องประเมินผล
- Influencer Marketing คืออะไร
- ก. การให้ผู้มีอิทธิพลในสื่อสังคมออนไลน์ช่วยส่งเสริมสินค้าหรือบริการ
- ข. การให้ผู้บริหารช่วยโฆษณาสินค้า
- ค. การให้พนักงานช่วยขายสินค้า
- ง. การให้ลูกค้าช่วยบอกต่อ
- Conversion Rate ในการตลาดออนไลน์หมายถึงอะไร
- ก. อัตราการแปลงผู้เข้าชมเว็บไซต์ให้เป็นลูกค้าหรือดำเนินการตามเป้าหมายที่ต้องการ
- ข. อัตราการเปลี่ยนสกุลเงิน
- ค. อัตราการเปลี่ยนรูปแบบการโฆษณา
- ง. อัตราการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมาย
- การตลาดแบบ Inbound Marketing คืออะไร
- ก. การตลาดที่พยายามดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาหาธุรกิจเอง
- ข. การตลาดที่ธุรกิจพยายามเข้าหาลูกค้าเอง
- ค. การตลาดที่เน้นการขายตรง
- ง. การตลาดที่เน้นการลดราคา
- Customer Relationship Management (CRM) มีความสำคัญอย่างไรในการตลาด
- ก. ช่วยในการติดตามและวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าเพื่อรักษาความสัมพันธ์และเพิ่มยอด
- ขาย
- ข. ช่วยในการผลิตสินค้า
- ค. ช่วยในการจัดจำหน่ายสินค้า
- ง. ช่วยในการกำหนดราคา
- ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของการสื่อสารการตลาด
- ก. ผู้ส่งสาร
- ข. ข้อความ
- ค. ช่องทางการสื่อสาร
- ง. การผลิต
Review ลูกค้า
เฉลยแนวข้อสอบครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาการตลาด
- ค. กระบวนการทางสังคมและการบริหารที่บุคคลและกลุ่มบุคคลได้รับสิ่งที่สนองความต้องการและความปรารถนาจากการสร้าง การเสนอ และการแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์
- ข. 4 ส่วน
- ค. พนักงาน (People)
- ข. สภาพแวดล้อมมหภาค
- ค. การพัฒนาผลิตภัณฑ์
- ข. ภูมิภาค ประเทศ เมือง
- ก. บุคลากร กระบวนการ และลักษณะทางกายภาพ
- ค. การผสมผสานเทคโนโลยีดิจิทัลกับการตลาดแบบดั้งเดิม
- ข. การมุ่งเน้นตลาดเฉพาะกลุ่มหรือตลาดเฉพาะ (Niche Market)
- ค. จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค
- ข. การเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างเป็นระบบเพื่อใช้ในการตัดสินใจทางการตลาด
- ค. ข้อมูลที่เก็บรวบรวมโดยตรงจากแหล่งข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะของการวิจัย
- ก. ปัจจัยด้านวัฒนธรรม สังคม ส่วนบุคคล และจิตวิทยา
- ง. ความต้องการความสำเร็จในชีวิต
- ค. เน้นการเก็บข้อมูลเชิงลึกจากกลุ่มตัวอย่างขนาดเล็ก
- ข. กระบวนการที่ลูกค้าผ่านไปตั้งแต่การรับรู้ถึงความต้องการจนถึงการซื้อและหลังการซื้อ
- ค. ขนาดของประชากร ระดับความเชื่อมั่น และความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้
- ง. การลดราคาสินค้า
- ข. ความภักดีของลูกค้าและความเป็นไปได้ที่จะแนะนำผลิตภัณฑ์ให้ผู้อื่น
- ข. ตัวแทนสมมติของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีลักษณะ พฤติกรรม และความต้องการคล้ายกัน
- ข. 4 ขั้นตอน
- ค. ขั้นเติบโตเต็มที่ (Maturity)
- ก. เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ส่วนแบ่งตลาดเทียบกับการเติบโตของตลาด
- ข. Star
- ง. 8 ขั้นตอน
- ง. การสร้างสรรค์ความคิด
- ข. คุณค่าที่ตราสินค้ามีในสายตาของผู้บริโภค
- ข. การเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในสายผลิตภัณฑ์เดิมที่มีอยู่
- ข. การใช้ตราสินค้ามากกว่าหนึ่งตราร่วมกันในผลิตภัณฑ์หรือบริการเดียวกัน
- ก. ผลิตภัณฑ์หลัก ผลิตภัณฑ์ที่แท้จริง และผลิตภัณฑ์เสริม
- ข. ราคาที่ทำให้รายรับเท่ากับรายจ่าย
- ข. การตั้งราคาต่ำเพื่อเจาะตลาดและเพิ่มส่วนแบ่งตลาด
- ข. การตั้งราคาสูงในช่วงแรกเพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ยอมจ่ายแพง แล้วค่อยๆ ลดราคาลง
- ค. การจำหน่ายสินค้าจากผู้ผลิตถึงผู้บริโภคโดยตรง
- ข. การจัดการกระบวนการตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบจนถึงการส่งมอบสินค้าให้ลูกค้า
- ค. การใช้หลายช่องทางการตลาดที่เชื่อมโยงและบูรณาการกัน
- ง. สินค้าสะดวกซื้อ
- ก. ลักษณะของผลิตภัณฑ์ ลักษณะของตลาด และลักษณะของคู่แข่ง
- ข. การกำหนดราคาตามที่ลูกค้ารับรู้ถึงคุณค่าของสินค้าหรือบริการ
- ง. เข้าถึงลูกค้าได้ในวงกว้าง
- ก. การใช้เครื่องมือสื่อสารการตลาดหลายรูปแบบร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
- ก. การตลาดที่เน้นเนื้อหาที่มีคุณค่าเพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย
- ก. การตลาดผ่านการส่งต่อข้อมูลจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งอย่างรวดเร็ว
- ข. การปรับปรุงเว็บไซต์ให้ติดอันดับสูงในผลการค้นหาแบบธรรมชาติ
- ก. ต้นทุนต่ำ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดี และมีการตอบโต้ได้ทันที
- ก. การให้ผู้มีอิทธิพลในสื่อสังคมออนไลน์ช่วยส่งเสริมสินค้าหรือบริการ
- ก. อัตราการแปลงผู้เข้าชมเว็บไซต์ให้เป็นลูกค้าหรือดำเนินการตามเป้าหมายที่ต้องการ
- ก. การตลาดที่พยายามดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาหาธุรกิจเอง
- ก. ช่วยในการติดตามและวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าเพื่อรักษาความสัมพันธ์และเพิ่มยอดขาย
- ง. การผลิต