แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ พ.ศ. 2551 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม)

หมวด 1: บททั่วไป

1. พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ พ.ศ. 2551 มีผลบังคับใช้เมื่อใด

ก. วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข. 30 วันหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ค. 60 วันหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ง. 180 วันหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา

2. ใครเป็นผู้รักษาการตาม พ.ร.บ. การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ

ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ค. นายกรัฐมนตรี
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

3. ตามพระราชบัญญัตินี้ “คนพิการ” หมายถึงอะไร

ก. บุคคลที่มีความบกพร่องทางร่างกายเท่านั้น
ข. บุคคลที่มีความบกพร่องทางด้านการสื่อสารเท่านั้น
ค. บุคคลซึ่งมีข้อจำกัดในการปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันหรือเข้าไปมีส่วนร่วมทางสังคม
ง. บุคคลที่มีความพิการตั้งแต่เกิดเท่านั้น

4. “แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล” หมายถึงอะไร

ก. แผนการศึกษาที่สถานศึกษาจัดทำขึ้นสำหรับนักเรียนทุกคน
ข. แผนการศึกษาที่จัดทำขึ้นสำหรับคนพิการทุกประเภทเหมือนกัน
ค. แผนการศึกษาที่กำหนดแนวทางการจัดการศึกษาตามความต้องการจำเป็นพิเศษของคนพิการแต่ละบุคคล
ง. แผนการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดขึ้นเพื่อให้สถานศึกษาปฏิบัติตาม

5. สิทธิทางการศึกษาของคนพิการตามพระราชบัญญัตินี้ให้คนพิการได้รับอะไรบ้าง

ก. ได้รับการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่แรกเกิดหรือแรกพบความพิการจนตลอดชีวิต
ข. ได้รับการศึกษาตามความต้องการจำเป็นพิเศษเฉพาะบุคคล
ค. ได้รับเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก สื่อ บริการความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษา
ง. ถูกทุกข้อ

---

หมวด 2: สิทธิและหน้าที่ทางการศึกษา

6. คนพิการมีสิทธิได้รับการศึกษาในระดับใดบ้าง

ก. เฉพาะการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. ตั้งแต่การศึกษาขั้นพื้นฐานจนถึงระดับอุดมศึกษา
ค. ตั้งแต่แรกเกิดหรือแรกพบความพิการจนตลอดชีวิต
ง. เฉพาะการศึกษาภาคบังคับเท่านั้น

7. การจัดสภาพแวดล้อม การพัฒนาระบบสนับสนุนการเรียนการสอนสำหรับคนพิการเป็นหน้าที่ของใคร

ก. สถานศึกษาในทุกสังกัด
ข. กระทรวงศึกษาธิการเท่านั้น
ค. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ง. ผู้ปกครองของคนพิการ

8. การลงทะเบียนเพื่อขอรับเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก สื่อ บริการความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษาสำหรับคนพิการ ต้องดำเนินการอย่างไร

ก. ลงทะเบียนที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด
ข. ลงทะเบียนที่ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัด ศูนย์การศึกษาพิเศษส่วนกลาง หรือสถานศึกษาที่คนพิการเรียนอยู่
ค. ลงทะเบียนที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด
ง. ลงทะเบียนที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่คนพิการมีภูมิลำเนา

9. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามีหน้าที่อย่างไรตามพระราชบัญญัตินี้

ก. จัดทำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคลให้แก่คนพิการทุกคนในพื้นที่
ข. จัดสรรงบประมาณให้แก่สถานศึกษาที่จัดการศึกษาสำหรับคนพิการ
ค. จัดทำรายงานการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการทุก 6 เดือน
ง. จัดสรรเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่สถานศึกษาที่จัดการศึกษาสำหรับคนพิการ

10. คนพิการที่ไม่สามารถเข้าศึกษาในระบบการศึกษาปกติได้ สามารถขอรับการศึกษาในรูปแบบใด

ก. การศึกษาทางไกล
ข. การศึกษานอกระบบ
ค. การศึกษาตามอัธยาศัย
ง. ถูกทุกข้อ

---

หมวด 3: การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ

11. การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการอาจจัดในรูปแบบใดได้บ้าง

ก. การเรียนร่วม
ข. ศูนย์การเรียนเฉพาะความพิการ
ค. การเรียนที่บ้าน
ง. ถูกทุกข้อ

12. ในการจัดการเรียนการสอนแบบเรียนร่วม สถานศึกษาต้องจัดให้มีอะไรบ้าง

ก. สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ
ข. ระบบสนับสนุนการเรียนการสอน
ค. บริการความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษา
ง. ถูกทุกข้อ

13. ผู้ใดมีอำนาจในการประกาศกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้คนพิการมีสิทธิได้รับสิ่งอำนวยความสะดวก สื่อ บริการความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษา

ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ข. คณะกรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ
ค. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ง. อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ

14. สถานศึกษาใดที่จัดการศึกษาสำหรับคนพิการโดยเฉพาะ ต้องจัดทำแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลสำหรับผู้เรียนหรือไม่

ก. ไม่ต้องทำ เพราะเป็นโรงเรียนสำหรับคนพิการอยู่แล้ว
ข. ต้องทำเฉพาะนักเรียนที่มีความพิการระดับรุนแรง
ค. ต้องทำให้กับผู้เรียนทุกคน
ง. ทำหรือไม่ทำก็ได้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม

15. ข้อใดไม่ใช่วัตถุประสงค์ของศูนย์การศึกษาพิเศษตามพระราชบัญญัตินี้

ก. จัดและส่งเสริม สนับสนุนการศึกษาในลักษณะศูนย์บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มสำหรับคนพิการ
ข. จัดทำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคลให้แก่คนพิการทุกคนในจังหวัด
ค. ให้บริการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการโดยครอบครัวและชุมชนด้วยกระบวนการทางการศึกษา
ง. ให้บริการเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก สื่อ บริการและความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษา

---

หมวด 4: กองทุนส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาสำหรับคนพิการ

16. กองทุนส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาสำหรับคนพิการมีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร

ก. เป็นทุนการศึกษาสำหรับคนพิการ
ข. สนับสนุนการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ
ค. จัดซื้อเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่สถานศึกษา
ง. ถูกทุกข้อ

17. รายได้ของกองทุนส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาสำหรับคนพิการมาจากแหล่งใดบ้าง

ก. เงินที่ได้รับจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี
ข. เงินค่าปรับจากการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้
ค. เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคหรือมอบให้
ง. ถูกทุกข้อ

18. ใครเป็นประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาสำหรับคนพิการ

ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ข. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ค. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ง. อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ

19. คณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาสำหรับคนพิการมีวาระการดำรงตำแหน่งกี่ปี

ก. 2 ปี
ข. 3 ปี
ค. 4 ปี
ง. 5 ปี

20. ใครทำหน้าที่เป็นผู้จัดการกองทุนส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาสำหรับคนพิการ

ก. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ
ค. ผู้อำนวยการกองทุนที่ได้รับการแต่งตั้ง
ง. ผู้ที่คณะกรรมการบริหารกองทุนแต่งตั้ง

---

หมวด 5: คณะกรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ

21. ใครเป็นประธานคณะกรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ

ก. นายกรัฐมนตรี
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ค. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ง. อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ

22. คณะกรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการมีอำนาจหน้าที่อะไรบ้าง

ก. เสนอนโยบาย ยุทธศาสตร์ แผนการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ
ข. เสนอแนะต่อรัฐมนตรีในการออกกฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศ
ค. กำหนดหลักเกณฑ์ให้สถานศึกษารับคนพิการเข้าศึกษา
ง. ถูกทุกข้อ

23. องค์ประกอบของคณะกรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการประกอบด้วยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิกี่คน

ก. ไม่เกิน 9 คน
ข. ไม่เกิน 11 คน
ค. ไม่เกิน 13 คน
ง. ไม่เกิน 15 คน

24. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการต้องเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ หรือประสบการณ์ด้านใดบ้าง

ก. ด้านการศึกษาสำหรับคนพิการ
ข. ด้านกฎหมาย
ค. ด้านการแพทย์และสาธารณสุข
ง. ถูกทุกข้อ

25. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการต้องมีผู้แทนองค์การคนพิการอย่างน้อยกี่คน

ก. 3 คน
ข. 5 คน
ค. 7 คน
ง. 9 คน

---

หมวด 6: บทกำหนดโทษ

26. สถานศึกษาใดปฏิเสธไม่รับคนพิการเข้าศึกษา มีโทษอย่างไร

ก. จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

27. ผู้ใดละเมิดหรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ มีโทษอย่างไร

ก. จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

28. นิติบุคคลที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ. นี้ มีโทษอย่างไร

ก. ปรับสองเท่าของโทษปรับสำหรับความผิดนั้น
ข. ปรับสามเท่าของโทษปรับสำหรับความผิดนั้น
ค. ปรับห้าเท่าของโทษปรับสำหรับความผิดนั้น
ง. ปรับสิบเท่าของโทษปรับสำหรับความผิดนั้น

29. เมื่อมีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ เงินค่าปรับจะนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใด

ก. เข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาสำหรับคนพิการ
ข. เข้างบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ
ค. เข้ากองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ
ง. เข้างบประมาณแผ่นดิน

30. ข้อใดไม่ใช่โทษตามพระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ
ก. จำคุก
ข. ปรับ
ค. กักขัง
ง. ทั้งจำทั้งปรับ

31. ตาม พ.ร.บ. การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ สถานศึกษาเฉพาะความพิการหมายถึงอะไร

ก. สถานศึกษาของรัฐหรือเอกชนที่จัดการศึกษาสำหรับคนพิการโดยเฉพาะ
ข. ศูนย์การศึกษาพิเศษเท่านั้น
ค. สถานศึกษาที่จัดการเรียนร่วม
ง. โรงเรียนการศึกษาสงเคราะห์

32. การศึกษานอกระบบสำหรับคนพิการ ให้จัดในรูปแบบใด

ก. การศึกษานอกระบบ
ข. การศึกษาตามอัธยาศัย
ค. การฝึกอบรมในหลักสูตรต่างๆ
ง. ถูกทุกข้อ

33. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตาม พ.ร.บ. การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ

ก. จัดทำแผนการศึกษาสำหรับคนพิการ
ข. จัดตั้งศูนย์บริการทางการศึกษาพิเศษ
ค. จัดสรรงบประมาณและทรัพยากรทางการศึกษา
ง. จัดให้มีการจัดทำแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล

34. ศูนย์การเรียนเฉพาะความพิการในสถานพยาบาลจัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่ออะไร

ก. เพื่อให้เด็กพิการรุนแรงได้มีโอกาสเรียนหนังสือ
ข. เพื่อให้เด็กพิการที่ต้องเข้ารับการรักษาเป็นเวลานานได้รับการศึกษา
ค. เพื่อให้แพทย์และพยาบาลได้มีโอกาสสอนหนังสือ
ง. เพื่อให้ผู้ปกครองมีเวลาพักผ่อน

35. “เครือข่ายด้านการศึกษาสำหรับคนพิการ” ตาม พ.ร.บ. นี้ประกอบด้วยใครบ้าง

ก. สถานศึกษา ผู้ปกครอง องค์กรเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ข. คณะกรรมการสถานศึกษา ศูนย์การศึกษาพิเศษ และชุมชน
ค. สถานศึกษาทุกระดับ องค์กรคนพิการทุกประเภท สถาบันพัฒนาวิชาชีพ และองค์กรเอกชน
ง. ผู้ปกครอง ครู และนักวิชาการด้านการศึกษาพิเศษ

36. คณะอนุกรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการประจำจังหวัด มีประธานเป็นใคร
ก. ผู้ว่าราชการจังหวัด
ข. ศึกษาธิการจังหวัด
ค. นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
ง. ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัด

37. เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกตาม พ.ร.บ. การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ หมายถึงอะไร

ก. เครื่องมือ อุปกรณ์ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการเพิ่มความสามารถในการเรียนรู้ของคนพิการ
ข. รถเข็น ไม้เท้า และอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการแพทย์
ค. ห้องเรียนที่จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับคนพิการ
ง. เทคโนโลยีที่ใช้ในโรงพยาบาลสำหรับการรักษาคนพิการ

38. การคัดกรองความพิการทางการศึกษา มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร

ก. เพื่อแยกคนพิการออกจากนักเรียนปกติ
ข. เพื่อจัดประเภทความพิการให้ชัดเจน
ค. เพื่อจัดทำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคลที่เหมาะสม
ง. เพื่อสำรวจจำนวนคนพิการในแต่ละพื้นที่

39. สถานศึกษาของรัฐที่จัดการเรียนร่วมต้องรับคนพิการเข้าศึกษาในสัดส่วนเท่าใด

ก. ตามสัดส่วนที่เหมาะสม
ข. ตามที่คณะกรรมการสถานศึกษากำหนด
ค. ตามที่คณะกรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการกำหนด
ง. ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ

40. ใครเป็นผู้แทนกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมในคณะกรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ

ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ
ข. ปลัดกระทรวงฯ
ค. อธิการบดีที่ได้รับมอบหมาย
ง. ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา

41. ผู้ที่มีหน้าที่ในการจัดทำแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลคือใคร

ก. ผู้บริหารสถานศึกษา
ข. ครูประจำชั้น
ค. ครูการศึกษาพิเศษ
ง. สถานศึกษาร่วมกับผู้ปกครองและคนพิการ

42. หากผู้ปกครองคนพิการไม่ประสงค์จะให้บุตรหรือบุคคลในความปกครองเข้ารับการศึกษาในระบบ สามารถขอรับการศึกษาในรูปแบบใดได้

ก. การศึกษานอกระบบ
ข. การศึกษาตามอัธยาศัย
ค. การศึกษาที่บ้าน
ง. ถูกทุกข้อ

43. การจัดการอาชีวศึกษาและการอุดมศึกษาสำหรับคนพิการ ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกสื่อ บริการ และความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษาสำหรับคนพิการให้การสนับสนุนทั้งด้านใด

ก. วิชาการ
ข. เงินอุดหนุน
ค. ทุนการศึกษา
ง. ถูกทุกข้อ

44. ศูนย์การศึกษาพิเศษมีหน้าที่อย่างไรเกี่ยวกับผู้ดูแลคนพิการ

ก. ให้การศึกษาอบรมและพัฒนาผู้ดูแลคนพิการ
ข. สนับสนุนผู้ดูแลคนพิการให้มีความรู้ความสามารถในการช่วยเหลือคนพิการ
ค. จ่ายเงินค่าตอบแทนให้แก่ผู้ดูแลคนพิการ
ง. ทั้งข้อ ก และ ข

45. การที่สถานศึกษาปฏิเสธไม่รับคนพิการเข้าศึกษา ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อคนพิการตามกฎหมายใด

ก. พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ
ข. พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
ค. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข

46. งบประมาณเพื่อการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ ให้จัดสรรเป็นเงินอุดหนุนแก่สถานศึกษาที่รับคนพิการเข้าศึกษาในอัตราที่เหมาะสมต่อคนพิการหนึ่งคน โดยคำนึงถึงสิ่งใด

ก. ความต้องการจำเป็นพิเศษของคนพิการแต่ละประเภท
ข. ความยากลำบากในการจัดการศึกษา
ค. ค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษา
ง. ถูกทุกข้อ

47. สถานศึกษาใดที่จัดการศึกษาสำหรับคนพิการ ไม่ว่าในระบบ นอกระบบ หรือตามอัธยาศัยที่เป็นสถานศึกษาเฉพาะความพิการ ให้ได้รับเงินอุดหนุนและความช่วยเหลือเป็นพิเศษจากรัฐในเรื่องใด

ก. การพัฒนาครูและบุคลากร
ข. งบประมาณ อาคาร สถานที่
ค. สื่อ วัสดุ ครุภัณฑ์ และเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก
ง. ถูกทุกข้อ

48. ในการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ ให้คณะกรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการส่งเสริมสนับสนุนและช่วยเหลือการดำเนินงานของหน่วยงานใดในระดับจังหวัด

ก. หน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน สถานศึกษาเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรคนพิการ และองค์กรอื่น
ข. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาเท่านั้น
ค. องค์กรคนพิการเท่านั้น
ง. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเท่านั้น

49. การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ ให้เป็นไปตามอะไร

ก. หลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
ข. หลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
ค. หลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด
ง. หลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีกำหนด

50. ในกรณีที่มีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ถือว่าใครเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

ก. ผู้ปกครองคนพิการ
ข. สถานศึกษา
ค. คนพิการ
ง. องค์กรคนพิการ

---

Review ลูกค้า

ครูผู้ช่วย อปท. กลุ่มวิชาต่างๆ

กลุ่มวิชาพลศึกษา กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ กลุ่มวิชาดนตรี กลุ่มวิชาการเกษตร กลุ่มวิชาการตลาด กลุ่มวิชาการบัญชี กลุ่มวิชาคหกรรม กลุ่มวิชาเคมี กลุ่มวิชาคอมพิวเตอร์ กลุ่มวิชาชีววิทยา กลุ่มวิชาจิตวิทยาและการแนะแนว กลุ่มวิชาดนตรีสากล กลุ่มวิชาทัศนศิลป์ กลุ่มวิชานาฎศิลป์ กลุ่มวิชาแนะแนว กลุ่มวิชาบรรณารักษ์ กลุ่มวิชาประถมศึกษา กลุ่มวิชาฟิสิกส์ กลุ่มวิชาศิลปะ กลุ่มวิชาภาษาไทย กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ กลุ่มวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา กลุ่มวิชาภาษาอังกฤษ กลุ่มวิชาวัดผลประเมินผล กลุ่มวิชาสังคมศึกษา กลุ่มวิชาอุตสาหกรรมศิลป์ กลุ่มวิชาเอกปฐมวัย สอบถามทางไลน์