ฟรี แนวข้อสอบครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาการบัญชี

 แนวข้อสอบครูผู้ช่วย กลุ่มวิชาการบัญชี ปรนัย 50 ข้อ พร้อมเฉลย

หมวดที่ 1: หลักการบัญชีเบื้องต้น

  1. ข้อใดคือนิยามของ “สินทรัพย์” ที่ถูกต้องที่สุด
  •    ก. หนี้สินที่กิจการจะต้องชำระให้กับเจ้าหนี้
  •    ข. ทรัพยากรที่กิจการควบคุมซึ่งเป็นผลของเหตุการณ์ในอดีตและคาดว่าจะให้             ประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในอนาคต
  •    ค. สิ่งที่เจ้าของกิจการได้นำมาลงทุนในกิจการ
  •    ง. รายการที่คาดว่าจะก่อให้เกิดกระแสเงินสดเข้าสู่กิจการเท่านั้น

   **เฉลย: ข.** ทรัพยากรที่กิจการควบคุมซึ่งเป็นผลของเหตุการณ์ในอดีตและคาดว่าจะ                          ให้ประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในอนาคต

 

  1. หลักการบัญชีคู่ (Double-Entry Accounting) มีหลักการสำคัญอย่างไร
  •    ก. สินทรัพย์ = หนี้สิน
  •    ข. สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ
  •    ค. สินทรัพย์ + หนี้สิน = ส่วนของเจ้าของ
  •    ง. สินทรัพย์ – หนี้สิน = ส่วนของเจ้าของ

   **เฉลย: ข.** สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ

 

  1. ข้อใดไม่จัดเป็นสินทรัพย์หมุนเวียน
  •    ก. เงินสด
  •    ข. ลูกหนี้การค้า
  •    ค. สินค้าคงเหลือ
  •    ง. อาคารและอุปกรณ์

   **เฉลย: ง.** อาคารและอุปกรณ์

 

  1. เมื่อกิจการซื้อวัตถุดิบเป็นเงินเชื่อ รายการบัญชีที่ถูกต้องคือข้อใด
  •    ก. เดบิต วัตถุดิบ / เครดิต เงินสด
  •    ข. เดบิต วัตถุดิบ / เครดิต เจ้าหนี้การค้า
  •    ค. เดบิต เจ้าหนี้การค้า / เครดิต วัตถุดิบ
  •    ง. เดบิต เงินสด / เครดิต วัตถุดิบ

   **เฉลย: ข.** เดบิต วัตถุดิบ / เครดิต เจ้าหนี้การค้า

 

  1. ข้อใดจัดเป็นงบการเงินหลักตามมาตรฐานการบัญชี
  •    ก. งบแสดงฐานะการเงิน งบกำไรขาดทุน งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของ               เจ้าของ และงบกระแสเงินสด
  •    ข. งบแสดงฐานะการเงิน งบกำไรขาดทุน งบกำไรสะสม และงบกระแสเงินสด
  •    ค. งบแสดงฐานะการเงิน งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วน         ของเจ้าของ และงบกระแสเงินสด
  •    ง. งบแสดงฐานะการเงิน งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ งบกำไรสะสม และงบกระแส           เงินสด

   **เฉลย: ค.** งบแสดงฐานะการเงิน งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ งบแสดงการเปลี่ยนแปลง                 ส่วนของเจ้าของ และงบกระแสเงินสด

 

 หมวดที่ 2: การบัญชีต้นทุน

  1. ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) มีลักษณะอย่างไร
  •    ก. ต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงตามสัดส่วนโดยตรงกับระดับกิจกรรมหรือปริมาณการผลิต
  •    ข. ต้นทุนที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามระดับกิจกรรมหรือปริมาณการผลิตในช่วงระยะ         เวลาหนึ่ง
  •    ค. ต้นทุนที่มีทั้งส่วนที่คงที่และเปลี่ยนแปลงตามระดับกิจกรรม
  •    ง. ต้นทุนที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเกี่ยวข้องกับหน่วยต้นทุนใด

   **เฉลย: ข.** ต้นทุนที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามระดับกิจกรรมหรือปริมาณการผลิตในช่วง                    ระยะเวลาหนึ่ง

 

  1. ระบบต้นทุนงานสั่งทำ (Job Order Costing) เหมาะกับกิจการประเภทใด
  •    ก. กิจการที่ผลิตสินค้าที่มีลักษณะเหมือนกันจำนวนมาก
  •    ข. กิจการที่ผลิตสินค้าที่มีลักษณะแตกต่างกันตามความต้องการของลูกค้า
  •    ค. กิจการที่มีกระบวนการผลิตต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน
  •    ง. กิจการที่ไม่มีสินค้าคงเหลือ

   **เฉลย: ข.** กิจการที่ผลิตสินค้าที่มีลักษณะแตกต่างกันตามความต้องการของลูกค้า

 

  1. จุดคุ้มทุน (Break-even Point) คือข้อใด
  •    ก. จุดที่ยอดขายเท่ากับกำไรสูงสุด
  •    ข. จุดที่ยอดขายเท่ากับต้นทุนคงที่รวมกับต้นทุนผันแปร
  •    ค. จุดที่กำไรเท่ากับศูนย์ หรือรายได้เท่ากับต้นทุนรวม
  •    ง. จุดที่รายได้เท่ากับต้นทุนผันแปร

   **เฉลย: ค.** จุดที่กำไรเท่ากับศูนย์ หรือรายได้เท่ากับต้นทุนรวม

 

  1. กิจการแห่งหนึ่งมีต้นทุนคงที่รวม 100,000 บาท ราคาขายต่อหน่วย 50 บาท ต้นทุนผันแปรต่อหน่วย 30 บาท จงหาจุดคุ้มทุนเป็นจำนวนหน่วย
  •    ก. 2,000 หน่วย
  •    ข. 3,333 หน่วย
  •    ค. 5,000 หน่วย
  •    ง. 10,000 หน่วย

   **เฉลย: ค.** 5,000 หนjวย (คำนวณจาก 100,000 ÷ (50-30))

 

  1. ข้อใดไม่ใช่วัตถุประสงค์ของการบัญชีต้นทุน
  •     ก. เพื่อคำนวณต้นทุนสินค้าที่ผลิต
  •     ข. เพื่อควบคุมต้นทุนการผลิต
  •     ค. เพื่อให้ข้อมูลสำหรับการวางแผนและตัดสินใจ
  •     ง. เพื่อคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล

    **เฉลย: ง.** เพื่อคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล

 

 หมวดที่ 3: การบัญชีชั้นกลาง

  1. สินค้าคงเหลือวัดมูลค่าด้วยราคาทุนหรือมูลค่าสุทธิที่จะได้รับแล้วแต่มูลค่าใดต่ำกว่า มูลค่าสุทธิที่จะได้รับ หมายถึงข้อใด
  •     ก. ราคาขายหักด้วยต้นทุนในการผลิตสินค้าให้เสร็จและต้นทุนที่จำเป็นในการขาย
  •     ข. ราคาขายหักด้วยกำไรที่คาดว่าจะได้รับ
  •     ค. ราคาขายหักด้วยราคาทุนของสินค้า
  •     ง. ราคาตลาดของสินค้าชนิดเดียวกัน

    **เฉลย: ก.** ราคาขายหักด้วยต้นทุนในการผลิตสินค้าให้เสร็จและต้นทุนที่จำเป็นในการขาย

 

  1. ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ ควรรับรู้เมื่อใด
  •     ก. เมื่อคาดว่าจะได้รับประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในอนาคต
  •     ข. เมื่อต้นทุนของสินทรัพย์สามารถวัดมูลค่าได้อย่างน่าเชื่อถือ
  •     ค. เมื่อกิจการมีอำนาจควบคุมสินทรัพย์
  •     ง. ถูกทุกข้อ

    **เฉลย: ง.** ถูกทุกข้อ

 

  1. วิธีการคิดค่าเสื่อมราคาแบบใดที่ทำให้ค่าเสื่อมราคาในปีแรกมีมูลค่าสูงที่สุด
  •     ก. วิธีเส้นตรง (Straight-line Method)
  •     ข. วิธียอดลดลงทวีคูณ (Double Declining Balance Method)
  •     ค. วิธีจำนวนผลรวมของปี (Sum-of-the-years’-digits Method)
  •     ง. วิธีตามหน่วยการผลิต (Units-of-production Method)

    **เฉลย: ข.** วิธียอดลดลงทวีคูณ (Double Declining Balance Method)

 

  1. หากกิจการยกเลิกการเช่าอาคารก่อนสิ้นสุดสัญญาเช่า และต้องจ่ายค่าปรับ ค่าปรับดังกล่าวควรบันทึกบัญชีอย่างไร
  •     ก. บันทึกเป็นสินทรัพย์ไม่มีตัวตน
  •     ข. บันทึกเป็นค่าใช้จ่ายล่วงหน้า
  •     ค. บันทึกเป็นค่าใช้จ่ายทันที
  •     ง. บันทึกเป็นค่าใช้จ่ายทยอยตัดจำหน่าย

    **เฉลย: ค.** บันทึกเป็นค่าใช้จ่ายทันที

 

  1. การรับรู้รายได้จากการขายสินค้า ควรรับรู้เมื่อใด
  •     ก. เมื่อได้รับเงินจากการขายสินค้า
  •     ข. เมื่อส่งใบแจ้งหนี้ให้ลูกค้า
  •     ค. เมื่อลูกค้าสั่งซื้อสินค้า
  •     ง. เมื่อโอนความเสี่ยงและผลตอบแทนที่มีนัยสำคัญของความเป็นเจ้าของสินค้าให้กับผู้ซื้อแล้ว

    **เฉลย: ง.** เมื่อโอนความเสี่ยงและผลตอบแทนที่มีนัยสำคัญของความเป็นเจ้าของสินค้าให้กับผู้ซื้อแล้ว

 

 หมวดที่ 4: การบัญชีชั้นสูง

  1. ข้อใดคือความหมายของค่าความนิยม (Goodwill)
  •     ก. มูลค่าตลาดของกิจการที่สูงกว่ามูลค่าทางบัญชี
  •     ข. สินทรัพย์ไม่มีตัวตนที่แสดงถึงผลประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในอนาคต
  •     ค. ส่วนของราคาซื้อที่สูงกว่ามูลค่ายุติธรรมสุทธิของสินทรัพย์ที่ระบุได้ที่ได้มาและหนี้สินที่รับมา
  •     ง. สิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของกิจการ

    **เฉลย: ค.** ส่วนของราคาซื้อที่สูงกว่ามูลค่ายุติธรรมสุทธิของสินทรัพย์ที่ระบุได้ที่ได้มาและหนี้สินที่รับมา

 

  1. วิธีใดไม่ใช่วิธีการบัญชีสำหรับเงินลงทุนในบริษัทร่วม
  •     ก. วิธีราคาทุน
  •     ข. วิธีส่วนได้เสีย
  •     ค. วิธีมูลค่ายุติธรรม
  •     ง. วิธีรวมธุรกิจ

    **เฉลย: ง.** วิธีรวมธุรกิจ

 

  1. บริษัทใหญ่ถือหุ้นในบริษัทย่อยในสัดส่วนเท่าใดจึงจะต้องจัดทำงบการเงินรวม
  •     ก. มากกว่า 20%
  •     ข. มากกว่า 25%
  •     ค. มากกว่า 50%
  •     ง. มากกว่า 75%

    **เฉลย: ค.** มากกว่า 50%

 

  1. ข้อใดไม่ใช่วิธีการแก้ไขข้อผิดพลาดทางการบัญชี
  •     ก. แก้ไขย้อนหลังโดยปรับปรุงยอดยกมาต้นงวดในงบการเงินงวดปัจจุบัน
  •     ข. ปรับปรุงกำไรหรือขาดทุนในงวดปัจจุบัน
  •     ค. เปิดเผยข้อมูลในหมายเหตุประกอบงบการเงิน
  •     ง. ปรับปรุงย้อนหลังงบการเงินที่นำมาเปรียบเทียบในทุกงวดที่นำเสนอ

    **เฉลย: ข.** ปรับปรุงกำไรหรือขาดทุนในงวดปัจจุบัน (ข้อผิดพลาดที่มีสาระสำคัญต้องปรับปรุงย้อนหลัง)

 

  1. ในการแปลงค่างบการเงินของหน่วยงานต่างประเทศเป็นสกุลเงินที่ใช้นำเสนองบการเงิน สินทรัพย์และหนี้สินควรแปลงค่าโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนใด
  •     ก. อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่เกิดรายการ
  •     ข. อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยสำหรับงวด
  •     ค. อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน
  •     ง. อัตราแลกเปลี่ยนคงที่ตามนโยบายของกิจการ

    **เฉลย: ค.** อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน

 

 หมวดที่ 5: การบัญชีภาษีอากร

  1. การคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลแตกต่างจากกำไรทางบัญชี เนื่องจากเหตุผลใด
  •     ก. การคำนวณภาษีใช้หลักเกณฑ์ตามประมวลรัษฎากร ในขณะที่การคำนวณกำไรทางบัญชีใช้หลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป
  •     ข. การคำนวณภาษีใช้เกณฑ์เงินสด ในขณะที่การคำนวณกำไรทางบัญชีใช้เกณฑ์คงค้าง
  •     ค. การคำนวณภาษีไม่รวมรายได้ที่ได้รับยกเว้นภาษี
  •     ง. ถูกทั้งข้อ ก. และ ค.

    **เฉลย: ง.** ถูกทั้งข้อ ก. และ ค.

 

  1. ผลแตกต่างชั่วคราวทางภาษีที่ต้องเสียภาษี (Taxable Temporary Differences) จะก่อให้เกิดรายการใด
  •     ก. สินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี
  •     ข. หนี้สินภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี
  •     ค. ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้
  •     ง. รายได้ภาษีเงินได้

    **เฉลย: ข.** หนี้สินภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี

 

  1. หากบริษัทมีขาดทุนสุทธิทางภาษีที่ยังไม่ได้ใช้ (Tax Loss Carry Forward) จะรับรู้บัญชีอย่างไร
  •     ก. รับรู้เป็นสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี
  •     ข. รับรู้เป็นหนี้สินภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี
  •     ค. รับรู้เป็นค่าใช้จ่ายทันที
  •     ง. ไม่ต้องบันทึกรายการใดๆ

    **เฉลย: ก.** รับรู้เป็นสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี (หากมีความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่ว่าจะมีกำไรทางภาษีเพียงพอที่จะใช้ประโยชน์)

 

  1. ค่าใช้จ่ายต้องห้ามทางภาษีอากร หมายถึงอะไร
  •     ก. ค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของกิจการ
  •     ข. ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นโดยไม่มีเอกสารหลักฐาน
  •     ค. ค่าใช้จ่ายที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของประมวลรัษฎากร
  •     ง. ค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถนำไปหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้

    **เฉลย: ง.** ค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถนำไปหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้

 

  1. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของรายจ่ายต้องห้ามตามประมวลรัษฎากร
  •     ก. รายจ่ายซึ่งไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการหักค่าใช้จ่าย
  •     ข. รายจ่ายที่มีลักษณะเป็นการส่วนตัว
  •     ค. รายจ่ายที่กำหนดขึ้นเองโดยไม่มีการจ่ายจริง
  •     ง. รายจ่ายค่าซื้อทรัพย์สินถาวรที่มีการคิดค่าเสื่อมราคา

    **เฉลย: ง.** รายจ่ายค่าซื้อทรัพย์สินถาวรที่มีการคิดค่าเสื่อมราคา

 

 หมวดที่ 6: การควบคุมภายในและการตรวจสอบบัญชี

  1. องค์ประกอบของการควบคุมภายในตามแนวคิด COSO ประกอบด้วยกี่องค์ประกอบ
  •     ก. 3 องค์ประกอบ
  •     ข. 5 องค์ประกอบ
  •     ค. 7 องค์ประกอบ
  •     ง. 9 องค์ประกอบ

    **เฉลย: ข.** 5 องค์ประกอบ

 

  1. องค์ประกอบใดของการควบคุมภายในที่เป็นพื้นฐานสำคัญที่สุด
  •     ก. สภาพแวดล้อมการควบคุม
  •     ข. การประเมินความเสี่ยง
  •     ค. กิจกรรมการควบคุม
  •     ง. สารสนเทศและการสื่อสาร

    **เฉลย: ก.** สภาพแวดล้อมการควบคุม

 

  1. การแบ่งแยกหน้าที่เป็นกิจกรรมการควบคุมประเภทใด
  •     ก. การควบคุมเชิงป้องกัน
  •     ข. การควบคุมเชิงค้นพบ
  •     ค. การควบคุมเชิงแก้ไข
  •     ง. การควบคุมเชิงส่งเสริม

    **เฉลย: ก.** การควบคุมเชิงป้องกัน

 

  1. ข้อใดไม่ใช่วัตถุประสงค์ของการตรวจสอบงบการเงิน
  •     ก. เพื่อแสดงความเห็นว่างบการเงินแสดงฐานะการเงินและผลการดำเนินงานโดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญ
  •     ข. เพื่อตรวจสอบการทุจริตในองค์กร
  •     ค. เพื่อให้ความเชื่อมั่นอย่างสมเหตุสมผลว่างบการเงินปราศจากการแสดงข้อมูลที่ขัดต่อข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญ
  •     ง. เพื่อตรวจสอบว่างบการเงินเป็นไปตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน

    **เฉลย: ข.** เพื่อตรวจสอบการทุจริตในองค์กร

 

  1. ความมีสาระสำคัญ (Materiality) ในการตรวจสอบงบการเงินหมายถึงอะไร
  •     ก. ข้อมูลที่มีความสำคัญและจำเป็นต้องเปิดเผยในงบการเงิน
  •     ข. ข้อมูลที่หากละเว้นหรือแสดงผิดพลาดอาจมีผลต่อการตัดสินใจเชิงเศรษฐกิจของผู้ใช้งบการเงิน
  •     ค. ข้อมูลที่ต้องเปิดเผยตามกฎหมาย
  •     ง. ข้อมูลที่ผู้บริหารให้ความสำคัญเป็นพิเศษ

    **เฉลย: ข.** ข้อมูลที่หากละเว้นหรือแสดงผิดพลาดอาจมีผลต่อการตัดสินใจเชิงเศรษฐกิจของผู้ใช้งบการเงิน

 

 หมวดที่ 7: ระบบสารสนเทศทางการบัญชี

  1. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของระบบสารสนเทศทางการบัญชี
  •     ก. บุคลากร
  •     ข. ข้อมูลและสารสนเทศ
  •     ค. เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์
  •     ง. กำไรสุทธิ

    **เฉลย: ง.** กำไรสุทธิ

 

  1. วงจรบัญชี (Accounting Cycle) ประกอบด้วยขั้นตอนใดเป็นขั้นตอนสุดท้าย
  •     ก. การปิดบัญชี
  •     ข. การจัดทำงบการเงิน
  •     ค. การปรับปรุงรายการบัญชี
  •     ง. การจัดทำงบทดลองหลังปิดบัญชี

    **เฉลย: ง.** การจัดทำงบทดลองหลังปิดบัญชี

 

  1. ระบบการประมวลผลรายการค้าแบบใดที่ทำให้รายงานทางการเงินมีความเป็นปัจจุบันมากที่สุด
  •     ก. การประมวลผลแบบชุด (Batch Processing)
  •     ข. การประมวลผลแบบทันที (Real-time Processing)
  •     ค. การประมวลผลแบบออนไลน์ (Online Processing)
  •     ง. การประมวลผลแบบรายวัน (Daily Processing)

    **เฉลย: ข.** การประมวลผลแบบทันที (Real-time Processing)

 

  1. ข้อใดคือประโยชน์ของฐานข้อมูลในระบบสารสนเทศทางการบัญชี
  •     ก. ลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล
  •     ข. เพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล
  •     ค. ทำให้ข้อมูลมีความสอดคล้องกัน
  •     ง. ถูกทุกข้อ

    **เฉลย: ง.** ถูกทุกข้อ

 

  1. ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของระบบสารสนเทศทางการบัญชีที่พบบ่อยที่สุดคือข้อใด
  •     ก. ภัยธรรมชาติ
  •     ข. ความผิดพลาดที่เกิดจากผู้ใช้งาน
  •     ค. การโจมตีทางไซเบอร์
  •     ง. ความล้มเหลวของฮาร์ดแวร์

    **เฉลย: ข.** ความผิดพลาดที่เกิดจากผู้ใช้งาน

 

 หมวดที่ 8: การวิเคราะห์รายงานทางการเงิน

  1. อัตราส่วนทางการเงินที่ใช้วัดความสามารถในการทำกำไรคือข้อใด
  •     ก. อัตราส่วนสภาพคล่อง
  •     ข. อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น
  •     ค. อัตรากำไรสุทธิ
  •     ง. อัตราส่วนหมุนเวียนของสินทรัพย์

    **เฉลย: ค.** อัตรากำไรสุทธิ

 

  1. อัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียน (Current Ratio) คำนวณจากสูตรใด
  •     ก. สินทรัพย์หมุนเวียน ÷ หนี้สินหมุนเวียน
  •     ข. (สินทรัพย์หมุนเวียน – สินค้าคงเหลือ) ÷ หนี้สินหมุนเวียน
  •     ค. สินทรัพย์ทั้งหมด ÷ หนี้สินทั้งหมด
  •     ง. เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ÷ หนี้สินหมุนเวียน

    **เฉลย: ก.** สินทรัพย์หมุนเวียน ÷ หนี้สินหมุนเวียน

 

  1. อัตราส่วนหมุนเวียนของสินค้า (Inventory Turnover) ที่สูงแสดงถึงสิ่งใด
  •     ก. กิจการมีสินค้าคงเหลือมากเกินไป
  •     ข. กิจการสามารถขายสินค้าได้เร็ว
  •     ค. กิจการมีสภาพคล่องต่ำ
  •     ง. กิจการขาดแคลนสินค้าคงเหลือ

    **เฉลย: ข.** กิจการสามารถขายสินค้าได้เร็ว

 

  1. วิธีการวิเคราะห์งบการเงินแบบแนวตั้ง (Vertical Analysis) คืออะไร
  •     ก. การเปรียบเทียบงบการเงินของกิจการระหว่างสองงวดบัญชีขึ้นไป
  •     ข. การเปรียบเทียบรายการในงบการเงินกับยอดรวมที่สำคัญในงวดเดียวกัน
  •     ค. การเปรียบเทียบงบการเงินของกิจการกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน
  •     ง. การเปรียบเทียบอัตราส่วนทางการเงินของกิจการกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม

    **เฉลย: ข.** การเปรียบเทียบรายการในงบการเงินกับยอดรวมที่สำคัญในงวดเดียวกัน

 

  1. ROA (Return on Assets) ใช้วัดสิ่งใด
  •     ก. ความสามารถในการทำกำไรจากสินทรัพย์ทั้งหมด
  •     ข. ความสามารถในการชำระหนี้
  •     ค. ประสิทธิภาพในการบริหารสินค้าคงเหลือ
  •     ง. อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น

    **เฉลย: ก.** ความสามารถในการทำกำไรจากสินทรัพย์ทั้งหมด

 

 หมวดที่ 9: การบัญชีบริหาร

  1. ข้อใดไม่ใช่หลักการของงบประมาณยืดหยุ่น (Flexible Budget)
  •     ก. จัดทำงบประมาณหลายชุดตามระดับกิจกรรมที่แตกต่างกัน
  •     ข. แสดงต้นทุนและค่าใช้จ่ายตามพฤติกรรมต้นทุน
  •     ค. มีการปรับเปลี่ยนงบประมาณตามระดับกิจกรรมที่เกิดขึ้นจริง
  •     ง. จัดทำงบประมาณตามหน่วยงานโดยไม่คำนึงถึงระดับกิจกรรม

    **เฉลย: ง.** จัดทำงบประมาณตามหน่วยงานโดยไม่คำนึงถึงระดับกิจกรรม

 

  1. การวิเคราะห์ส่วนต่างที่เกิดจากราคาวัตถุดิบเรียกว่าอะไร
  •     ก. ส่วนต่างราคาวัตถุดิบ (Material Price Variance)
  •     ข. ส่วนต่างปริมาณวัตถุดิบ (Material Quantity Variance)
  •     ค. ส่วนต่างประสิทธิภาพ (Efficiency Variance)
  •     ง. ส่วนต่างรวม (Total Variance)

    **เฉลย: ก.** ส่วนต่างราคาวัตถุดิบ (Material Price Variance)

 

  1. การคำนวณส่วนต่างปริมาณวัตถุดิบ (Material Quantity Variance) ใช้สูตรใด
  •     ก. (ปริมาณมาตรฐาน – ปริมาณที่ใช้จริง) × ราคามาตรฐาน
  •     ข. (ปริมาณมาตรฐาน – ปริมาณที่ใช้จริง) × ราคาที่ซื้อจริง
  •     ค. (ราคามาตรฐาน – ราคาที่ซื้อจริง) × ปริมาณที่ใช้จริง
  •     ง. (ราคามาตรฐาน – ราคาที่ซื้อจริง) × ปริมาณมาตรฐาน

    **เฉลย: ก.** (ปริมาณมาตรฐาน – ปริมาณที่ใช้จริง) × ราคามาตรฐาน

 

  1. ในการตัดสินใจระยะสั้น ข้อมูลใดที่ควรนำมาพิจารณา
  •     ก. ต้นทุนที่เกิดขึ้นในอดีต (Sunk Cost)
  •     ข. ต้นทุนส่วนเพิ่ม (Incremental Cost)
  •     ค. ต้นทุนคงที่ทั้งหมด (Total Fixed Cost)
  •     ง. ต้นทุนของเงินลงทุน (Cost of Capital)

    **เฉลย: ข.** ต้นทุนส่วนเพิ่ม (Incremental Cost)

 

  1. ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) หมายถึงอะไร
  •     ก. ต้นทุนที่ได้จ่ายไปแล้วและไม่สามารถเรียกคืนได้
  •     ข. ต้นทุนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและสามารถหลีกเลี่ยงได้
  •     ค. ผลประโยชน์ที่ต้องสูญเสียไปจากการเลือกทางเลือกอื่น
  •     ง. ต้นทุนที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเลือกทางเลือกใด

    **เฉลย: ค.** ผลประโยชน์ที่ต้องสูญเสียไปจากการเลือกทางเลือกอื่น

 

 หมวดที่ 10: จรรยาบรรณวิชาชีพบัญชี

  1. หลักการพื้นฐานของจรรยาบรรณวิชาชีพบัญชีข้อใดที่เกี่ยวข้องกับการไม่เปิดเผยข้อมูลของลูกค้าให้บุคคลอื่นทราบโดยไม่ได้รับอนุญาต
  •     ก. ความโปร่งใส
  •     ข. ความเป็นอิสระ
  •     ค. การรักษาความลับ
  •     ง. ความซื่อสัตย์สุจริต

    **เฉลย: ค.** การรักษาความลับ

 

  1. สถานการณ์ใดที่อาจก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการปฏิบัติตามหลักการพื้นฐานของจรรยาบรรณในเรื่องความเป็นอิสระ
  •     ก. ผู้สอบบัญชีมีความสัมพันธ์ทางครอบครัวกับผู้บริหารของกิจการที่ตรวจสอบ
  •     ข. ผู้สอบบัญชีได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานที่มีความซับซ้อนเกินความรู้ความสามารถ
  •     ค. ผู้สอบบัญชีให้บริการแก่ลูกค้าหลายรายในอุตสาหกรรมเดียวกัน
  •     ง. ผู้สอบบัญชีได้รับการขู่เข็ญจากลูกค้า

    **เฉลย: ก.** ผู้สอบบัญชีมีความสัมพันธ์ทางครอบครัวกับผู้บริหารของกิจการที่ตรวจสอบ

 

  1. การคิดค่าธรรมเนียมวิชาชีพควรคำนึงถึงหลักการใด
  •     ก. ควรคิดค่าธรรมเนียมตามอัตราตลาด
  •     ข. ควรคิดค่าธรรมเนียมตามความยากง่ายของงาน ระยะเวลา และทักษะที่ต้องใช้
  •     ค. ควรคิดค่าธรรมเนียมสูงสุดเท่าที่ลูกค้ายอมรับได้
  •     ง. ควรคิดค่าธรรมเนียมโดยอิงกับผลของงาน

    **เฉลย: ข.** ควรคิดค่าธรรมเนียมตามความยากง่ายของงาน ระยะเวลา และทักษะที่ต้องใช้

 

  1. บริการใดที่อาจทำให้ผู้สอบบัญชีขาดความเป็นอิสระหากให้บริการแก่ลูกค้างานสอบบัญชี
  •     ก. บริการให้คำปรึกษาด้านภาษีอากร
  •     ข. บริการวางระบบบัญชี
  •     ค. บริการจัดทำบัญชี
  •     ง. บริการฝึกอบรมพนักงานบัญชี

    **เฉลย: ค.** บริการจัดทำบัญชี

 

  1. ข้อใดไม่ใช่มาตรการป้องกันที่ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีควรนำมาใช้เพื่อลดอุปสรรคให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้
  •     ก. การปรึกษาหารือกับผู้บังคับบัญชาหรือผู้กำกับดูแล
  •     ข. การถอนตัวจากงานที่ก่อให้เกิดอุปสรรค
  •     ค. การใช้ทีมงานที่แตกต่างกันในการให้บริการ
  •     ง. การเพิกเฉยต่ออุปสรรคที่เกิดขึ้นเนื่องจากเป็นลูกค้ารายใหญ่

    **เฉลย: ง.** การเพิกเฉยต่ออุปสรรคที่เกิดขึ้นเนื่องจากเป็นลูกค้ารายใหญ่

Review ลูกค้า

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *